
เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา รัฐบาลญี่ปุ่นได้อนุมัติให้มีการปรับแก้กฎหมายจราจรทางบกเพื่อส่งเสริมการให้บริการขนส่งด้วยยานยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีการขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Autonomous car หรือ Self-driving car) ระดับที่ 4 (ขับเคลื่อนอัตโนมัติภายใต้เงื่อนไขที่ระบุไว้ เช่น จำกัดความเร็ว และสถานที่) และจะเริ่มมีการใช้งานจริงในท้องถนนภายในปีนี้ โดยหวังว่าเทคโนโลยีนี้จะช่วยทำหน้าที่เป็น "ขาหรือเท้า" ให้กับผู้คนในท้องถิ่นที่ระบบการขนส่งสาธารณะมีไม่เพียงพอ
สำหรับกฎหมายดังกล่าว จะเน้นส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติสำหรับการขนส่งสาธารณะในพื้นที่เฉพาะที่มีหน่วยงานท้องถิ่นหรือบริษัทเป็นผู้ให้บริการ โดยกำหนดให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการความปลอดภัยสาธารณะประจำจังหวัด เพื่อตรวจสอบวิธีการทำงานและแผนการดำเนินของธุรกิจก่อนอนุญาตให้มีการประกอบกิจการ เช่น การกำหนดเจ้าหน้าที่สำหรับควบคุมดูแลระบบการขับเคลื่อนอัตโนมัติ และสามารถตรวจสอบการเดินทางของรถโดยสารประจำทางหรือรถส่งสินค้าทางหน้าจอผ่านระบบออนไลน์ได้ เป็นต้น ทั้งนี้ เมื่อเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพก็จะเริ่มให้มีการใช้งานกับรถยนต์ส่วนบุคคลต่อไป เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติในต่างประเทศ ดังเช่นประเทศเยอรมนีที่กฏหมายอนุญาตให้ใช้ยานยนต์ระบบเคลื่อนขับอัตโนมัติได้ตั้งแต่ปี 2564
ปัจจุบัน การให้บริการขนส่งด้วยยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ใกล้เคียงกับเทคโนโลยีระดับที่ 4 มากที่สุดอยู่ที่เมืองเอเฮจิ จังหวัดฟุกุอิ ซึ่งมีรถโดยสารสาธารณะสำหรับนักท่องเที่ยวหรือคนในท้องถิ่นที่ใช้เทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติระดับ 3 มาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564 โดยรถดังกล่าวจะวิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 12 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีพื้นที่การให้บริการเป็นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งแม้จะไม่มีพนักงานขับรถแต่ก็มีเจ้าหน้าที่คอยติดตามการทำงานและสามารถควบคุมผ่านระบบทางไกลได้ในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉิน ทั้งนี้จากการเปิดให้บริการมาประมาณ 1 ปีในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ พบว่ามีความปลอดภัยและไม่เคยมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเลย ซึ่งตามที่รัฐบาลมีมติแก้ไขกฎหมายจราจรทางบกฉบับล่าสุดแล้ว เมืองเอฮาจิก็พร้อมจะยกระดับการให้บริการด้วยยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ใช้เทคโนโลยีระดับ 4 ต่อไป
Cr. ญี่ปุ่นแก้กฎหมายรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ
โดย ... ริสะ อินุอิ office of Industrial Affairs, Royal Thai Embassy Tokyo
ความคิดเห็น