ฟังนักเศรษฐศาสตร์สำนักNAGOYAอธิบายDigital Wallet ฉบับเศรษฐา ผ่านคำตอบ11ข้อ!!!

Article

หลังจากที่พรรคเพื่อไทย ประกาศนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศระยะสั้น ด้วยโครงการ Digital Wallet 1 หมื่นบาทสำหรับผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปทุกคน โดยกำหนดให้ใช้จ่ายภายในเขตรัศมี 4 กิโลเมตรตามบัตรประชาชน และใช้ให้หมดใน 6 เดือน

ภายหลัง นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ประกาศตัวเลขไปเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา ปรากฎได้รับผลตอบรับจากประชาชนอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด แต่ก็มีจำนวนหนึ่งออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้ โดยมองนโยบายของพรรคเพื่อไทยว่าไร้ความรับผิดชอบ และสร้างหนี้โดยไม่จำเป็น ดังกรณีของ ดร ธาริษา วัฒนเกส อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ออกมาวิจารณ์อย่างแรง

ด้วยเหตุนี้ เพื่อให้เกิดความกระจ่างแจ้ง "ศ.ดร.กิตติ ลิ่มสกุล "นักเศรษฐมิติที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก ในฐานะนักเศรษฐศาสตร์สำนักNAGOYA ญี่ปุ่น สำนักเดียวกับดร.ธาริษา อดีตผู้ว่าธปท.จึงได้ออกมาร้างความเข้าใจ

เพราะวันนี้ ศ.ดร.กิตติ เป็นกรรมการบริหารพรรคและรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ด้านเศรษฐกิจ ซึ่งมีส่วนร่วมสำคัญในการผลักดัน Digital Wallet ร่วมกับทีมนโยบายด้านเศรษฐกิจทั้งภายใน และภายนอก ได้ทำจดหมายน้อยอธิบายต่อดร.ธาริษา ดุจกัลยาณมิตร ที่อกมาชี้แนะวิพากษ์วิจารณ์เพื่อให้เกิดความรอบรอบยิ่งขึ้น.....!!!

ลองไปติดตามจดหมายน้อยจาก ดร.กิตติ ถึงดร.ธาริษา เพื่อนสมาชิกชมรมนักเรียนเก่า ม.นาโกย่า สาขาประเทศไทย

.***********

เรียน ดร ธาริษา วัฒนเกส

อดีตนักเรียนญี่ปุ่น

เรื่องนี้ น่าจะ เข้าใจไม่ถ่องแท้นะครับ ท่าน

1. เศรษฐกิจไทยแม้ดูดีขึ้น เพราะท่องเที่ยวในต้นปีนี้ แต่ส่งออกน่าจะยังซึม อีกสักพักใหญ่สามไตรมาส หรือมากกว่า กว่าจะฟื้นตัวได้จริง ไม่ใช่เพราะศก. โลกเพียงอย่างเดียว แต่เพราะปัญหา supply constraints จากด้านการใช้กำลังการผลิตที่ต่ำเกินเพราะเครื่องจักร มีประสิทธิภาพต่ำและล้าหลัง

.ทรัพยากรมนุษย์ขาดทักษะที่จำเป็นต่อยุคดิจิทัล

Digital Wallet จึงไม่ใช่การกระตุ้นแต่ด้านอุปสงค์ หากแต่ต้องการ jump start ด้านอุปทานด้วย (โปรดดูนโยบายอื่น ๆ ของพรรคเพื่อไทยประกอบ)

.

2. Potential growt มีอัตรา 6% + แต่ actual growth เพียง 2% or less หากไม่ทำอะไรในระยะสั้นจะไม่สามารถฟื้นเครื่องยนต์เศรษฐกิจ ระยะยาวซึ่งไม่ง่ายเลย เนื่องจาก 8 ปี แห่งความล้าหลัง

.

3. เครื่องยนต์ดับหมด เพราะรัฐบาลประยุทธ์และพวกสืบทอดอำนาจ บริหาร ศก. ผิดพลาด บวกโควิดผิดพลาด เราเสียหายมากต้อง jump start ถ้าเศรษฐกิจที่พวกเขาทำ ไม่ตกต่ำ ติดเหว เราคงไม่ต้องทำ

.

4. นโยบายการเงินไม่เกิดผล เพราะรัฐบาลบริหารแบบอนุรักษ์เกินไป และ ไม่ยอมสัมพันธ์ Fiscal and Monetary Policy mixed แบบสากล

.

(ความไม่ประสานในอดีตของการบริหารแบบนี้ ที่พิสูจน์แล้วว่าผิดพลาดจากนโยบายการเงิน และ อัตราแลกเปลี่ยน การขาดดุลภาพภายนอก และส่งผลต่อการเก็งกำไร สู้ค่าเงินจนล่มสลายแบบต้มยำกุ้ง เราน่าจะจำไว้ว่า เป็นนโยบายการเงินที่ผิดพลาดด้วยปัญหาบุคคล และ วิธีคิดแบบไม่เข้าใจการเปลี่ยนแปลง ของโลกทุนนิยม )

.

5. นโยบาย Digital Wallet รัฐบาลนี้ ตั้งใจทำการบริหาร ผ่านธนาคาร กรุงไทย … เช่น คนละครึ่ง เดินหน้าด้วยงบประมาณที่รัฐชดเชยให้กับธนาคารที่ดำเนินการคนละครึ่ง ก็ดำเนินร่วมระหว่างนโยบาย และ ธนาคารและรัฐชดเชยให้ตามจริง

.

6. Digital Wallet เริ่มเดือน มค.2567 รัฐเก็บภาษีได้คาดว่า สองแสนล้าน กว่าการบริหารประเทศที่ไม่แก้ปัญหาเฉพาะหน้า เช่น งบประชุม สัมนาไปต่างประเทศ งบเรื่องความมั่นคงที่เลื่อนเวลาได้ … และ รายรับภาษีที่เข้าตลอดปี 67/68 จาก Digital Wallet ทำให้รัฐบริหาร cash flow ได้แน่นอน

.

7.บางฝ่ายมักประมาณการแบบอนุรักษ์ (คิดว่ามีทุนสำรองไว้มากๆ ดี มีหนี้น้อยดี แต่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์สร้างหนี้ไร้สาระ ขาดการใช้อย่างมีประสิทธิผล ไม่เห็นออกความเห็น?)

.

เราคณะทำงานเพื่อไทยคิดว่า ทำอย่างไรจะ jump start ระบบเศรษฐกิจให้ได้ 85% ของศักภาพ การเติบโต (85% ของ 6 % pa ) 2567-2570 และจ่ายหนี้สาธารณะได้ในระยะยาว

.

(ปล.หนี้ FX คงค้างการต่อสู้ค่าเงินบาทที่ ธปท สร้างไว้ และกลายเป็นหนี้สาธารณะที่ประชาชนต้องใช้ ผ่านระบบภาษีไงละ ลืมหรือยัง)

.

8. Digital Wallet ไม่ใช่การสร้างหนี้ครับขอให้ศึกษาอีกครั้ง มันคือสิทธิ (token)ไม่ใช่การสร้างสกุลเงินใหม่ เช่น BTC ที่สำคัญ Digital Wallet จะวางรากฐานให้ประชาชน (ถ้วนหน้า) เข้าใจในการสิทธิที่มอบ หรือ โอนให้ประชาชนใช้ใน 6 เดือนรอบ ๆ 4 กิโลเมตร(แผนกระจายรายได้ชุมชน) ผู้ขายจะสามารถจัดการนำสิทธินี้ไปหมุนเวียนต่อ (multiplier effect 4-6 เท่า , mpc = . และ สร้างฐานรายจ่าย /รายได้ ที่มากกว่ารายรับภาษีที่ ท่านคำนวณมาอย่างแน่นอน ไม่ใช่ VAT อย่างเดียว และ ไม่ใช่รอบเดียว

.

เมื่อหมดโครงการอาจมีการหมุนเวียน มากกว่า 4-6 รอบในเวลาที่เหมาะสม ฝั่งผู้ขายก็แลกเป็น Fiat ตามต้องการ

.

9. ไม่มีอะไรกระทบต่อการเพิ่ม /ลด ปริมาณเงินในระบบโดย ธปท และ quasai money …

.

10. การลดช่องว่างของอุปทานที่ขยายตัวเพื่อสนองต่ออุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น จะทำให้สินค้าบริการขยายตัว และ ไม่ก่อให้เกิดเงินเฟ้อเมื่อสิ้นโครงการแม้ช่วงแรก6 เดือน จะมีการ shoot ของราคาบ้างแต่จะค่อยๆ ลดลงในไตรมาสต่อไป

.

กรุณาเข้าใจการทำงานของ Digital Wallet ในการปรับดุลภาพ อุปสงค์ อุปทานรวมที่ลด Gap เพิ่มการใช้ กำลังการผลิต และ การปรับตัวหลังจากเครื่องยนต์ jump start

.

11. โลกที่กำลังเปลี่ยนสู่ความโปร่งใสของการปรับตัวทางนโยบาย เศรษฐกิจที่ไม่ใช่อย่างที่ท่านคาดเดา โดยเฉพาะการสร้างหนี้ทางการคลัง

(ผมกังขาเสมอว่า ทำไมเงินสำรองที่ท่านดูแลที่บอกว่ามีมากและอวดอ้างว่าประเทศมั่นคง มั่งคั่งจากการ สะสม FX ผมว่า มันน่าจะวัดว่าประเทศ มั่งคั่งเมื่อประชาชนอยู่เหนือเส้นยากจน การกระจายรายได้เท่าเทียม สวัสดิการสังคมสูง การรักษาพยาบาลดี มีงานทำ รายได้สูง เท่า OECDและเยาวชนมีงานทำ ค่าจ้าง 600 บาท/วัน ใน 4 ปี รายได้คนจบใหม่ 25,000 … )

.

ผมศิษย์เก่าญี่ปุ่นเช่นกัน แต่เห็นต่างจากท่านมากครับ ..."

.ศ.ดร. กิตติ ลิ่มสกุล ป. เอก ม.นาโงญา ญี่ปุ่น

นักเรียน ทุน รัฐบาลญี่ปุ่น

ข้างต้นเป็นเนื้อหาใจความจดหมายของนักเศรษฐศาสตร์ชั้นครู ที่มีประสบการณ์บรรยายเศรษฐศาสตร์ในชั้นปริญญาเอก มหาวิทยาลัยชั้นนำที่ญี่ปุ่นมาแล้ว เรียกว่า มีลูกศิษย์ลูกหาเจริญก้าวหน้าเป็นนักเศรษฐศาสตร์ และผู้บริหารธนาคารกลางในหลายประเทศ

วันนี้ ศ.ดร.กิตติ ผันตัวเองสู่แวดวงการเมืองและร่วมปลุกปั้นโครงการเพื่อชุมชน และประสบความสำเร็จมาแล้วอย่างดี คือ โครงการหนึ่งผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล หรือโอทอป ดังนั้น ท่านจึงมีความเข้าใจบริบทสังคมที่หลากหลายมิติ วิถีอาชีพผู้คนในชนบทก็เข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าพวกเขาต้องการความจำเป็นขั้นพื้นฐานอะไร? ขณะเดียวกัน เรื่องของนโยบายการเงินการคลังประเทศก็ตระหนัก

อนึ่ง สำหรับเงิน 1 หมื่นบาท จึงอาจน้อยนิดสำหรับผู้มีฐานะทางสังคม โดยเฉพาะสำหรับนักวิชาการบางคน และอดีตข้าราชการระดับสูงที่เกษียณและเคยมีรายรับเดือนละหลายหมื่น หลายแสนบาท เงิน 1 หมื่นบาทจึงแทบไม่มีความหมาย

กลับกัน 1 หมื่นบาทเดียวกันแต่มีความหมายมากสำหรับคนส่วนใหญ่ของประเทศในชนบท ที่ต้องการนำไปต่อยอดอาชีพ เพื่อสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว

เพราะต้องไม่ลืมว่าประชากรไทย80%อยู่ในชนบท และกว่า 80% ของคนเหล่านั้นเป็นผู้มีรายได้น้อย และเกือบ 100%ของทั้งหมดที่เขาเหลานั้นต้องการเหมือนๆกัน คือ..โอกาส!!!

CLOSE-UP THAILAND

สื่อเพือการพัฒนาประเทศ