รัฐบาลเดินหน้า “Thailand Entertainment Complex” มหานครบันเทิงระดับโลก หวังเป็น “เครื่องยนต์ใหม่” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยวไทย ด้วย Man-Made Tourism

.

(4 มิ.ย. 68) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงานแถลงข่าว “THAILAND ENTERTAINMENT COMPLEX” โดยมี นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ร่วมนำเสนอรายละเอียดโครงการ.

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ระบุว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยต้องการเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจตัวใหม่ เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงทาง Geopolitics และการแข่งขันทางเศรษฐกิจในระดับโลก รัฐบาลจึงผลักดันโครงการ Thailand Entertainment Complex เพื่อสร้างอุตสาหกรรมใหม่ ดึงดูดนักท่องเที่ยว ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตในระดับที่เหมาะสม

.

นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบไม่ต้องรอฤดูกาลและเน้นการท่องเที่ยวที่ ‘สร้างขึ้นใหม่’ ซึ่ง Entertainment Complex เป็น Man-Made Destination ที่สามารถสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ เช่น คอนเสิร์ตฮอลล์ พื้นที่จัดงานนิทรรศการระดับโลก สวนสนุก พิพิธภัณฑ์ ร้านอาหารระดับมิชลิน ตลอดจนท่าเรือยอชต์ ที่รองรับนักท่องเที่ยวระดับบน ซึ่งจะช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาล เพิ่มการจ้างงาน และดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลก

.

รองเลขาธิการฯ ย้ำว่า โครงการนี้เป็นการลงทุนโดยเอกชน ไม่ใช้เงินภาษีจากพี่น้องประชาชน พร้อมยืนยันว่าทุกขั้นตอนเป็นไปด้วยความโปร่งใส มีกฎหมายรองรับครบถ้วน มีข้อมูลสนับสนุนและมีการกำกับดูแลอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะประเด็น ‘กาสิโน’ ยืนยันว่าไม่ใช่ศูนย์การพนันออนไลน์ และไม่ใช่ทุกคนที่เข้าได้ มีกฎเข้มงวด มาตรการป้องกันที่รัดกุมทุกขั้นตอน และการบังคับใช้ทางกฎหมายอย่างชัดเจน.

โครงการ Entertainment Complex ถือเป็นโอกาสการลงทุนครั้งใหญ่ของประเทศ ที่ไม่เพียงสร้างรายได้จากภาษีให้รัฐปีละ 12,000–40,000 ล้านบาทเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมการจ้างงาน และช่วยเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวได้ถึง 5–20% ทำให้ประเทศไทยไม่มีช่วง low season สร้างแรงกระเพื่อมให้กับเศรษฐกิจโดยรวม

.

ทั้งนี้รายได้จากโครงการฯ จะถูกนำไปสนับสนุนในเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม เช่น ทุนการศึกษา การพัฒนาเยาวชน การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง โดยรัฐบาลได้กำหนดไว้ใน พ.ร.บ. ฯ อย่างชัดเจน เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนและเป็นธรรมต่อชุมชน รวมทั้งรัฐบาลจะเปิดกว้างต่อข้อเสนอแนะต่างๆ และจะนำเสียงวิพากษ์วิจารณ์มาปรับปรุงร่าง พ.ร.บ. ให้รัดกุมยิ่งขึ้น