มาตรการลดราคาน้ำมัน ก๊าซ และไฟฟ้าของเพื่อไทย วันนี้สามารถทำได้ทันที ช่วยประชาชนได้ดี กว่าแค่จะมาบอกว่าให้ประหยัดไฟด้วยการเปิดแอร์ 27 องศาควบคู่เปิดพัดลม

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย อดีตรมว.พลังงาน กล่าวว่า วิกฤตพลังงานจะรุนแรงมากขึ้นเนื่องจากแนวโน้มราคาพลังงานที่สูงขึ้นต่อเนื่อง หากรัฐบาลยังไม่สามารถหาวิธีการแก้ไขให้ประชาชนมีชีวิตรอดจากวิกฤตศรษฐกิจได้จะยิ่งเดือดร้อนมากขึ้น
.
-วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ยืดเยื้อส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับขึ้นมาอยู่ที่ 110 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลและจะสูงมากขึ้น ขณะที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มีแนวโน้มเลิกพยุงราคาน้ำมันดีเซลให้ต่ำกว่า 30 บาท/ลิตร ในไม่ช้า
.-ค่าไฟฟ้าก็กำลังจะปรับขึ้นราคาเป็น 4 บาทต่อหน่วย ขึ้นทีเดียวจาก 3.78 บาท ซึ่งเป็นการปรับขึ้นมากที่สุด
.-ก๊าซหุงต้มถัง 15 กิโลกรัมก็กำลังปรับขึ้นจาก 318 บาท เป็น 333 บาท และจะทยอยขึ้น 3 ครั้ง โดยราคาจะขึ้นไปถึง 363 บาท
.
ทั้งหมดนี้จะยิ่งทำให้พี่น้องประชาชนต้องอยู่อย่างยากลำบาก และยังไม่นับว่า ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคกำลังเรียงหน้ากระดานขึ้นราคากันในอีก 3-6 เดือนนี้ เพราะแบกรับต้นทุนไม่ไหว
.
พรรคเพื่อไทย เห็นถึงความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสของพี่น้องประชาชน จึงขอแสนอมาตรการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้พลเอกประยุทธ์ นำไปพิจารณาเพื่อลดต้นทุนราคาสินค้าที่กำลังจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะมาตรการลดราคาน้ำมัน ก๊าซ และไฟฟ้า ดังนี้
.
1. ค่าน้ำมันที่แพงขึ้น ให้เร่งพิจารณาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงอีก 2.99 บาท จะทำให้ดีเซลลดลงได้ 3.20 บาท ให้ลดราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นไทยเท่าราคาหน้าโรงกลั่นสิงคโปร์ในราคาไม่บวกค่าขนส่งและค่าใช้จ่ายอื่น และรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ต้องรีบคืนเงิน 20,087.42 ล้านบาท ของกองทุนส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ที่โอนไปเป็นรายได้รัฐกลับคืนมาใช้ช่วยลดราคาน้ำมันให้ประชาชน
.
2. ค่าก๊าซหุงต้ม ซึ่งไทยผลิตได้เองจากโรงแยกก๊าซและโรงกลั่นน้ำมัน ปตท. จึงควรรักษาระดับราคาเดิมไว้ไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน โดยรัฐสนับสนุนราคาในส่วนนี้ และพิจารณาปรับราคาเฉพาะก๊าซที่ใช้เติมรถยนต์และก๊าซที่ใช้ในอุตสาหกรรม เก็บเงินอุดหนุนจากก๊าซที่ใช้ในธุรกิจปิโตรเคมี เพื่อนำเงินนี้มาพยุงราคาก๊าซช่วยเหลือประชาชนที่ต้องใช้ก๊าซหุงต้ม เหมือนที่ทำในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
.
3. ค่าไฟฟ้าที่กำลังจะแพงขึ้นและสร้างผลกระทบกับประชาชนทุกครัวเรือน รัฐต้องเจรจาขอลด ‘ค่าความพร้อม’ สำหรับโรงไฟฟ้าที่สร้างเสร็จแต่ยังไม่ผลิตไฟฟ้า จะทำให้ค่าไฟลดลง รวมถึงลดค่าส่วนต่างของไฟฟ้าที่ซื้อจากโรงไฟฟ้าของเอกชนในราคาถูก แต่ถูกการไฟฟ้าฝ่ายผลิตนำมาขายให้ประชาชนในราคาแพง จนการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีกำไรสะสม 3 แสนล้านบาท การไฟฟ้านครหลวงมีกำไรสะสม 2 แสนล้านบาท ซึ่งควรนำมาช่วยลดรายจ่ายให้ประชาชน รวมทั้งจะต้องเร่งเจรจาหาแหล่งก๊าซราคาถูก เพื่อลดราคาค่าไฟฟ้าเพราะไทยยังใช้ก๊าซเพื่อผลิตไฟฟ้าถึงประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์
.
ราคาพลังงานจะถูกลงได้ถ้าคิดเป็นและบริหารเป็น พลเอกประยุทธ์ สามารถนำข้อเสนอนี้ไปทำได้ทันที อย่าอ้างเปรียบเทียบว่าสมัยพรรคเพื่อไทย ก็มีปัญหาราคาน้ำมันแพง เพราะว่าแม้ขณะนั้นจะเกิดปัญหาราคาน้ำมันในตลาดโลกแพงขึ้น แต่รัฐบาลก็สามารถทำให้เศรษฐกิจประเทศขยายตัวได้ดี โดยในปี 2555 เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ถึง 7.2 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งพลเอกประยุทธ์ ไม่เคยทำได้ แม้ราคาน้ำมันจะลดลงต่ำและนี่คือความล้มเหลวและเสียโอกาสของประชาชน"
อดีตรมว.พลังงาน ที่วันนี้ รับหน้าที่รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ด้านเศรษฐกิจ กล่าวเพิ่มเติมว่า
"ราคาน้ำมันได้กลับมาเป็นขาขึ้นใหม่หลังจากราคาลงไปต่ำกว่า $100 ต่อบาร์เรลอยู่ไม่กี่วันแล้วกลับขึ้นมาอยู่ที่ $110 ต่อบาร์เรล และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอีกถ้าสงครามรัสเซียยูเครนยังยืดเยื้อและถ้ามีการแซงชั่นรัสเซีย โดยรัฐบาลมีแนวโน้มที่จะเลิกพยุงราคาดีเซลต่ำกว่า 30 บาทในไม่ช้า และ ค่าไฟฟ้ากำลังจะปรับราคาขึ้นเป็นหน่วยละ 4 บาทเริ่มเดือนพฤษภาคม จากราคาเดิมที่หน่วยละ 3.78 บาท ซึ่งเพิ่มขึ้นมากและเป็นการปรับขึ้นมากที่สุดเท่าที่เคยปรับขึ้นมา ราคาก๊าซหุงต้มจะปรับขึ้นโดยถัง 15 กก. จาก ราคา 318 เป็น 333 บาทในวันที่ 1 เมษายนนี้ และจะปรับทั้งหมด 3 ครั้งราคาจะขึ้นไปถึง 363 บาทซึ่งจะหนักมาก ประชาชนจะอยู่กันได้ยากถ้าราคาพลังงานปรับขึ้นสูงมากขนาดนี้ อีกทั้งราคาสินค้ากำลังจะเรียงหน้าขึ้นราคากันอีกจากการแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไม่ไหว โดยเอสเอ็นอีประกาศจะขึ้นราคาแล้วภายใน 3-6 เดือนนี้
สถานการณ์สงครามรัสเซียยูเครนจะกระทบกับห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain)ในสินค้า จำนวนมากกว่า 200 ชนิด ทำให้ราคาสูงขึ้น ทั้งราคาปุ๋ย ราคาอาหารสัตว์ ราคาแร่ธาตุต่างๆ เช่น เหล็ก นิกเกิล ไททาเนียม อลูมิเนียม พาลาเดียม ฯลฯ รวมถึง แร่ธาตุหายากที่ใช้ผลิตไมโครชิปด้วย ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะทำให้ระดับราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้น และเงินเฟ้อจะยิ่งสูงขึ้น อีกทั้งสินค้าจำเป็นหลายชนิดได้เริ่มขึ้นราคากันแล้วเช่น ไข่ไก่ บะหมี่สำเร็จรูป นมข้นหวาน มะนาว ฯลฯ และจะมีสินค้าต่างๆขึ้นราคาเพิ่มขึ้นกันอีก
ดังนั้น พลเอกประยุกต์ต้องหันกลับมาพิจารณาแล้วว่าจะทำอย่างไรเพื่อช่วยเหลือและลดค่าครองชีพของประชาชนเพื่อให้ประชาชนอยู่รอดได้ คำแนะนำเพียงให้เปิดแอร์ที่ 27 องศา ควบคู่เปิดพัดลม และ ไม่ใช้เตารีด ไดร์เป่าผมในห้องที่เปิดแอร์ และหมั่นล้างแอร์ รวมถึงใช้รถเท่าที่จำเป็น ก่อนหน้านี้ แม้จะเป็นเรื่องดี แต่เป็นเรื่องที่เก่ามาก และจะไม่สามารถช่วยประชาชนให้มีชีวิตรอดจากภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ในภาวะเช่นนี้ได้
จึงอยากแนะนำให้พลเอกประยุทธ์ได้พิจารณาลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้กับประชาชนที่เป็นสาเหตุหลักที่ต้นทุนสินค้าต่างๆเพิ่มขึ้น ซึ่งสามารถทำได้จริงดังนี้
ในเรื่องราคาน้ำมัน
- ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงอีก 2.99 บาท จะทำให้ราคาน้ำมันดีเซลลดลง 3.20 บาท (ภาษีมูลค่าเพิ่มจะลดลง 0.21 บาทด้วย) ลดลงมาเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลเพียงลิตรละ 0.005 บาทเหมือนในสมัยรัฐบาลพรรคเพื่อไทย - ลดราคาหน้าโรงกลั่นของไทยให้เท่ากับราคาหน้าโรงกลั่นสิงคโปร์ (ไม่บวกค่าขนส่ง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ) - ถ้าราคาเอทานอลถูกกว่าราคาเนื้อน้ำมัน ควรพิจารณาผสมสัดส่วนของเอทานอลเพิ่ม เพื่อลดราคาน้ำมันเบนซิน - แม้จะเบื่อที่จะทวงแล้วแต่ก็ต้องทวงเพราะเป็นเงินของประชาชนที่พลเอกประยุทธ์ต้องคืนเงิน 20,087.42 ล้านบาท จากกองทุนส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานที่โอนไปเป็นรายได้รัฐกลับคืนมา เพื่อช่วยลดราคาน้ำมันในช่วงนี้ ถ้าจะไม่คืนก็ต้องชี้แจงเหตุผล ไม่ใช่ทำเงียบเหมือนกรณีเหมืองทองอัครา
ราคาก๊าซ
- ราคาก๊าซหุงต้มเป็นสัดส่วนที่ประเทศไทยผลิตได้เองจากโรงแยกก๊าซและได้จากการกลั่นน้ำมัน ดังนั้นจึงควรรักษาระดับราคาเดิมเพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน โดย บมจ. ปตท ควรสนับสนุนราคาในส่วนนี้ โดยขึ้นราคาเฉพาะก๊าซ LPG ที่เติมรถยนต์และก๊าซที่ใช้ในอุตสาหกรรม
- เก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเพิ่มสำหรับก๊าซ LPG ที่ใช้ในธุรกิจโปโตรเคมี เพื่อมาช่วยพยุงราคาก๊าซ ซึ่งในอดีตตนเคยสั่งเก็บไว้แล้ว กก. ละ 1 บาท
ราคาไฟฟ้า
- เจรจาขอลดค่าความพร้อมสำหรับโรงไฟฟ้าที่สร้างเสร็จแต่ไม่ได้ผลิตไฟฟ้าเพราะกำลังการผลิตล้นเกิน ซึ่งปัจจุบันมีกำลังการผลิตเกินกว่า 40% โดยขอให้เก็บค่าความพร้อมลดลง ค่าไฟจะได้ลดลง และหยุดการให้ใบอนุญาตไฟฟ้าจนกว่าการใช้ไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้น เพราะทุกวันนี้ยังให้ใบอนุญาตผลิตไฟฟ้ากันอยู่เลย ทั้งที่การผลิตไฟฟ้าล้นเกินมาก
- ลดส่วนต่างของไฟฟ้าที่ซื้อจากโรงไฟฟ้าของเอกชนในราคาถูก แต่ กฟผ. นำมาขายให้กับประชาชนในราคาที่แพง เพื่อลดราคาไฟฟ้านี้ ทั้งนี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต กฟผ. มีกำไรสะสมประมาณสามแสนล้านบาท การไฟฟ้านครหลวงมีกำไรสะสมประมาณ แสนล้านบาท ทั้งสองแห่งเป็นหน่วยงานของรัฐ ซึ่งน่าจะนำมาช่วยลดค่าใช้จ่ายของประชาชนในช่วงลำบากนี้
- การเจรจาหาแหล่งก๊าซราคาถูกเพื่อลดราคาไฟฟ้า เพราะประเทศไทยใช้ก๊าซในการผลิตไฟฟ้าถึงประมาณ 70%
เรื่องเหล่านี้ พลเอกประยุทธ์สามารถทำได้ทันทีและจะช่วยประชาชนได้ ดีกว่าจะมาบอกแต่เรื่องเก่าๆที่ประชาชนทราบอยู่แล้ว และไม่ได้ช่วยอะไร ซึ่งถ้าจะให้เปรียบเทียบผลงาน 8 ปี 10 ปี ก็อยากจะบอกว่าในอดีตที่น้ำมันราคาสูง รัฐบาลสมัยพรรคเพื่อไทยภายใต้อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในอดีตก็สามารถทำเศรษฐกิจขยายตัวได้ดี โดยในปี 2555 เศรษฐกิจไทยขยายตัวถึง 7.2% ซึ่งพลเอกประยุทธ์ไม่เคยทำได้แม้ราคาน้ำมันจะลดต่ำลงมากมาตลอด นี่เป็นความล้มเหลวอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องบันทึกไว้ และเป็นการเสียโอกาสของประเทศไทยที่จะได้พัฒนาในช่วงราคา 7 ปีที่น้ำมันมีราคาถูก
Comments