top of page

วุฒิฯย้ำการให้ข้อเสนอแนะคดี"น้องแตงโม -ภัทรธิดา"ไม่ใช่ข้อสั่งการแทรกแซงเจ้าหน้าที่

นายสมชาย แสวงการ ประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา เป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณาการทำหน้าที่สอบหาข้อเท็จจริง กรณีการเสียชีวิตของน.ส.ภัทรธิดา พัชระวีรพงษ์ หรือแตงโม โดยได้แถลงภายหลังการประชุมว่า ตามที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้มีการแถลงข่าวความคืบหน้าคดีแตงโม และได้ตั้งข้อสังเกตต่อการทำหน้าที่ของคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ว่าการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและการให้คำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจเป็นการก้าวก่ายหรือขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่ โดยยืนยันว่า คณะกรรมาธิการได้ตระหนักถึงหน้าที่และอำนาจ และได้ทำงานภายใต้กรอบหน้าที่และอำนาจตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ. 2554 ข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา พ.ศ. 2562 และระเบียบสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาว่าด้วยการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ พ.ศ. 2558 ซึ่งไม่ได้เป็นการแทรกแซงการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานใด ไม่ได้เป็นการใช้สถานะสมาชิกวุฒิสภาหรือคณะกรรมาธิการ ในการกระทำใดๆ อันเป็นการก้าวก่าย หรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือของพรรคการเมือง ไม่ว่าโดยตรงหรือทางอ้อม


ซึ่งก่อนหน้านี้ แม่ของแตงโมได้มายื่นเรื่องขอความเป็นธรรมและขอให้ตั้งคณะกรรมการร่วมตรวจสอบการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากยังมีข้อสงสัยในพยานหลักฐานหลายประเด็นและผู้ร้องเรียนมีความประสงค์ขอให้คณะกรรมาธิการสอบหาข้อเท็จจริงให้เกิดข้อกระจ่างและเกิดความเป็นธรรม ซึ่งคณะกรรมาธิการได้พิจารณาแล้วเห็นว่า กรณีดังกล่าวมีประชาชนให้ความสนใจอย่างกว้างขวาง ผลของคดีจะมีส่วนสำคัญต่อความเชื่อมั่นและศรัทธาในกระบวนการยุติธรรม จึงต้องทำความจริงให้ปรากฏ เพื่อให้ประชาชนได้รับความยุติธรรมโดยไม่ล่าช้า และคลี่คลายข้อสงสัยของญาติแตงโมและสังคม อีกทั้งจะส่งผลต่อการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม

ทั้งนี้ การให้ข้อเสนอแนะ ข้อคิดเห็น และการแถลงข่าวของคณะกรรมาธิการนั้น มิใช่ข้อสั่งการที่จะเป็นการแทรกแซงการทำงานของเจ้าหน้าที่หรือหน่วยปฏิบัติแต่อย่างใด แต่เป็นการให้ข้อเสนอแนะ ข้อคิดเห็นต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ส่วนจะนำไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่

ด้านแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภาในฐานะกรรมาธิการฯ และอดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวถึงกรณีที่ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน คุณแม่ของแตงโม พร้อมด้วยทนายเดชา เตรียมยื่นเรื่องขอถอนเรื่องการตรวจสอบคดีแตงโม ออกจากกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค ของวุฒิสภา โดยมองว่าเป้าที่แท้จริงไม่ใช่กรรมาธิการ แต่เป็นตนเอง และส่งมาจากส่วนอื่นผ่านแม่มา เพื่อให้ยุติการตรวจสอบ ดังนั้น หากถามตอนนี้ ส่วนตัวรู้สึกเฉยๆ เพราะตั้งแต่เกิดเหตุไม่ได้ตามเพราะมีใครมา แต่ทำโดยหน้าที่ เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นก็สะท้อนให้เห็นว่า

“แม่ไม่เข้าใจบทบาทหน้าที่ของกรรมาธิการ ส.ว. เพราะโดยกฎหมาย สามารถเดินเรื่องตรวจสอบได้เอง โดยไม่มีใครมาร้องขอ หากเรื่องนั้นกระทบกับสิทธิ์กับประชาชนส่วนใดส่วนหนึ่ง และกรรมาธิการก็รับเรื่องร้องทุกข์ได้ แต่วันนี้คดีนี้เป็นเรื่องใหญ่ จะเห็นชัดเจนว่าจุดใดต้องปฏิรูป”

แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ ระบุว่า เข้าใจแม่ของแตงโม แต่ที่เป็นห่วงมากที่สุด คือ แตงโมที่เสียชีวิตไปแล้วเหมือนเอาไป “ปู้ยี่ปูยำ ดึงเรื่องไปมา” พร้อมย้ำว่า ที่กรรมาธิการเข้าไปตรวจสอบ ก็เพื่อค้นหาความจริงให้กระจ่าง

เมื่อถามว่า หลังมีการยื่นถอนเรื่องออกจากกรรมาธิการแล้ว จะยุติการตรวจสอบหรือไม่ แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ ยืนยันว่า การตรวจสอบเป็นสิทธิ์และยิ่งเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น กรรมาธิการยิ่งให้ความสนใจ พร้อมขยายความที่บอกว่า เป้าอยู่ที่ตนเองนั้น มองว่า "หมอมีความรู้เรื่องนิติวิทยาศาสตร์ และคนที่ทักท้วงการเสียชีวิตของแตงโมก็คือตนเอง ดังนั้น เรื่องจึงแคบลงมา แล้วมาโฟกัสที่ตัวหมอ ซึ่งตอนแรกที่เห็นข่าวตั้งใจว่าจะไม่ให้กรรมาธิการเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่ตอนนี้มาบอกว่า หมอพรทิพย์ไปก้าวก่าย จึงอยากถามแม่ว่า คำว่า ก้าวก่ายคืออะไร เพราะกรรมาธิการยังไม่ได้ขอดูวัตถุพยาน ส่วนวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งไปลงพื้นที่แค่ดูสภาพเรือ เพราะมีข้อมูลมาหลายกระแส แต่กรรมาธิการไม่ได้เข้าไปในเขตพื้นที่หวงห้ามเลย รวมถึงคำแนะนำที่ให้ไป อยากให้เก็บรักษาวัตถุพยาน ไม่เปลี่ยนแปลงโดยสภาพอากาศ หรือมีใครเข้าไปเปลี่ยนแปลง"


Cr.tpchannel-Thairath

Comments


ดาวน์โหลด (1).png

เพื่อให้ทุกท่านสามารถติดตามประเด็นวิเคราะห์เจาะลึกผ่านทาง CLOSE-UP THAILAND เชิญเพิ่มเพื่อนทางไลน์ @closeupthailand

bottom of page