อธิบดีกรมสรรพสามิตสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงปมเจ้าหน้าที่โทรเคลียร์รถขนน้ำมันเถื่อน กำชับสอบสวนให้รอบด้าน พร้อมลงโทษผู้กระทำความผิดทั้งวินัยและอาญาให้ถึงที่สุด
วันที่ 8 มิ.ย.66 นายเกรียงไกร พัฒนาภรณ์ รองอธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต กล่าวถึงความคืบหน้าภายหลังกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่สรรพสามิตประจวบคีรีขันธ์ จับกุม นายสมบัติ อายุ 47 ปี ในความผิดฐาน ’มีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษี’ หรือ ’น้ำมันเถื่อน’ ได้ที่บริเวณริมถนนเพชรเกษม ทล.4 กม.308 ขาเข้า ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีรถบรรทุกน้ำมันดีเซล 15,000 ลิตร เป็นของกลางในคดี และมีการรายงานว่าภายหลังการจับกุมนายสมบัติ ได้มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรมสรรพสามิตรายหนึ่ง โทรศัพท์มาขอเจรจาไม่ให้ดำเนินคดีกับนายสมบัติ แต่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมไม่ยินยอม ปฏิเสธกลับไปนั้น
ขณะนี้กรมสรรพสามิตได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงข้าราชการรายดังกล่าวตั้งแต่เมื่อวานนี้ (7 มิ.ย.66) สำหรับการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าน้ำมันดีเซลของกลางทั้งหมดจำนวน 15,000 ลิตร ไม่มีหลักฐานการเสียภาษีสรรพสามิต ถือว่าเป็นการครอบครองสินค้าที่ยังไม่ได้มีการเสียภาษีสรรพสามิต ซึ่งกรมฯจะดำเนินการตามมาตรา 203 แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 โดยมีโทษปรับสูงสุด 10 เท่าต่อไป ส่วนเจ้าหน้าที่สรรพสามิตที่โทรมาขอเจรจานั้น เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ถูกกล่าวหา และเพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้สามารถนำตัวผู้ถูกกล่าวหามาดำเนินการตามกฎหมายได้อย่างรวดเร็ว กรมสรรพสามิตจึงได้ประสานงานไปยังกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ - บก.ปปป. เพื่อบูรณาการความร่วมมือในการตรวจสอบข้อมูลเพื่อเอาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ถึงที่สุด และหากมีข้อมูลชี้ถึงผู้บริหารระดับสูง กรมฯ พร้อมนำข้อมูลหลักฐานดังกล่าวมาตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการตามระเบียบวินัยราชการโดยไม่มีข้อยกเว้น
ทั้งนี้กรมสรรพสามิตจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้และมีการติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากกรมฯมีนโยบายที่ชัดเจนในเรื่องการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในทุกระดับ และจะนำข้อมูลที่ได้รับไปรวบรวมและวิเคราะห์เพื่อหามาตรการขับเคลื่อนมาตรการป้องกันการทุจริตเชิงรุกให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และยับยั้งปัญหาการทุจริตที่อาจเกิดขึ้นต่อไป
ทั้งนี้ นาย วิโรจน์ ลักขณาอดิศร พรรคก้าวไกลออกมาระบุเมื่อวานว่า
4 เรื่องที่ประชาชนอยากรู้ 1.บิ๊กสรรพสามิตคือใคร 2.ซื้อน้ำมันเถื่อนมาจากไหน 3.พรรคพวกมีใครบ้าง 4.ทำมานานเท่าไหร่แล้ว - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - วันนี้ตำรวจทางหลวงได้เข้าจับกุมรถบรรทุกน้ำมันเถื่อน พร้อมของกลางรถบรรทุก ทะเบียน 70-3694 มหาสารคาม ส่วนพ่วงทะเบียน 70-2182 มหาสารคาม บรรทุกน้ำมันดีเซลเถื่อน 15,000 ลิตร . ประเด็นที่สังคมสงสัย และไม่พอใจอย่างมาก ก็คือ ระหว่างการตรวจสอบน้ำมันดีเซลของกลางอยู่นั้น มี "เจ้าหน้าที่สรรพสามิตระดับสูง หรือบิ๊กสรรพสามิต" รายหนึ่ง โทรศัพท์มาหาเจ้าหน้าที่สรรพสามิตที่ร่วมจับกุม เพื่อขอให้ปล่อยรถบรรทุกคันดังกล่าว อ้างว่าเป็นของพรรคพวก แต่เจ้าหน้าที่ได้ตอบปฏิเสธกลับไป . กรณีนี้ ต้องชื่นชมท่านอธิบดีกรมสรรพสามิต ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ และท่านผู้บังคับการ ปปป. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ที่ไม่ได้นิ่งนอนใจ และมีการสั่งหาตัว "บิ๊กสรรพสามิต คนดังกล่าวอย่างเร่งด่วน ซึ่งผมเชื่อว่า ไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นอะไร เผลอๆ ตอนนี้ท่านอาจจะทราบแล้วก็ได้ . ผมคิดว่า ณ ขณะนี้ ประชาชนอยากทราบความคืบหน้าของกรณีนี้ อยู่ 3 ข้อ ผมจึงขอให้ท่านอธิบดีกรมสรรพสามิต และท่านผู้บังคับการ ปปป. กรุณาแถลงให้ประชาชนทราบด้วยครับ . 1. "บิ๊กสรรพสามิต" ที่เหิมเกริมคนนั้นเป็นใคร . 2. ที่ระบุว่าให้ปล่อยรถบรรทุกน้ำมันเถื่อน เพราะ้ป็นของพรรคพวก พรรคพวกที่ว่าประกอบไปด้วยใคร หรือบริษัทไหนบ้าง . 3. ซื้อน้ำมันเถื่อนมาตั้ง 15,000 ลืตร มาจากไหน ที่ผ่านมาขายมาเยอะแค่ไหนแล้ว ขายให้กับใครบ้าง . 4. ที่ผ่านมา "บิ๊กสรรพสามิต" คนนี้ เคยใช้อำนาจหน้าที่ช่วยพรรคพวกไปแล้วกี่ครั้ง คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทั้งหมดเท่าไหร่ มีการรับผลประโยชน์ไปแล้วมากน้อยเพียงไร . ในท้ายที่สุด ผมขอให้การสอบสวนที่จะเกิดขึ้น ขยายผลจาก "บิ๊กสรรพสามิต" คนดังกล่าว สาวไปให้ถึงต้นขบวนการ และเครือข่ายพรรคพวกทั้งหมด และในกรณีที่พบหลักฐานการรับผลประโยชน์ จากพ่อค้าน้ำมันเถื่อน ก็ควรต้องพิจารณาดำเนินคดีอาญาอย่างเด็ดขาด รวมทั้งส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ง. ให้ดำเนินการยึดทรัพย์ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป"
Comentarios