(ลองฟังคำอธิบาบายจากคลิป ทีมวิจัยสวนดุสิตโพลล์)
วันที่ 27 มี.ค. สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชน จำนวน 1,047 คน กรณีความหนักใจของคนไทย ณ วันนี้ระหว่างวันที่ 22-24 มีนาคม 2565 พบว่า เรื่องที่ประชาชนหนักใจมากที่สุด ร้อยละ 89.73 ระบุว่า ของแพง น้ำมันแพง ค่าครองชีพสูง รองลงมาร้อยละ 87.43 ระบุว่า เศรษฐกิจย่ำแย่ ร้อยละ 73.70 ระบุว่า การบริหารงานของรัฐบาล
ทั้งนี้ ประชาชนร้อยละ 56.73 ระบุว่า รู้สึกค่อนข้างหนักใจกับปัญหาต่างๆ รองลงมา ร้อยละ 38.78 ระบุว่า หนักใจมาก ร้อยละ 4.01 ระบุ ไม่ค่อยหนักใจ สาเหตุที่ทำให้หนักใจ ร้อยละ 80.97 ระบุว่า ทุกอย่างขึ้นราคา รองลงมาร้อยละ 57.10 ระบุว่า การแก้ปัญหาของรัฐบาล ร้อยละ 47.25 ระบุว่า เงินไม่พอใช้
ขณะที่ ประชาชนร้อยละ 76.14 ระบุว่า รับมือกับปัญหาด้วยการตั้งสติ อดทน ให้กำลังใจตัวเอง รองลงมา ร้อยละ 58.00 ระบุว่า ยอมรับสภาพ ทำใจ ปลง ร้อยละ 57.23 ระบุว่า พยายามนึกถึงครอบครัว คนที่เรารัก โดยประชาชนร้อยละ 75.77 ระบุว่า อยากให้รัฐบาลรับฟังความคิดเห็น ช่วยเหลือประชาชนให้มากขึ้น รองลงมา ร้อยละ71.61 ระบุ สนใจชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนมากกว่าเล่นเกมการเมือง ร้อยละ 66.57 ระบุว่า มีมาตรการลดค่าน้ำมัน ลดค่าครองชีพ ลดค่าน้ำค่าไฟ
หมายเหตุ....คำอธิบาย
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณี ความหนักใจของคนไทย ณ วันนี้ กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,047 คน สำรวจระหว่างวันที่ 22-24 มีนาคม 2565 พบว่า เรื่องที่ประชาชนหนักใจมากที่สุดอันดับ 1 คือ ของแพง น้ำมันแพง ค่าครองชีพสูง ร้อยละ 89.73 โดยรู้สึกค่อนข้างหนักใจกับปัญหาต่าง ๆ ร้อยละ 56.73 และหนักใจมาก ร้อยละ 38.45 สาเหตุที่ทำให้หนักใจ คือ ทุกอย่างขึ้นราคา ร้อยละ 80.97 รองลงมาคือ การแก้ปัญหาของรัฐบาล ร้อยละ 57.10 ทั้งนี้ประชาชนรับมือกับปัญหาด้วยการตั้งสติ อดทน ให้กำลังใจตัวเอง ร้อยละ 76.14 โดยอยากให้รัฐบาลรับฟังความคิดเห็น ช่วยเหลือประชาชนให้มากขึ้น ร้อยละ 75.77 ในภาพรวมรายได้ของประชาชน ณ วันนี้ไม่พอใช้และมีหนี้สิน ร้อยละ 41.26
สรุปผลการสำรวจ : ความหนักใจของคนไทย ณ วันนี้ สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณีความหนักใจของคนไทย ณ วันนี้ กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,047 คน สำรวจระหว่างวันที่ 22-24 มีนาคม 2565 พบว่า เรื่องที่ประชาชนหนักใจมากที่สุด อันดับ 1 คือ ของแพง น้ำมันแพง ค่าครองชีพสูง ร้อยละ 89.73 โดยรู้สึกค่อนข้างหนักใจกับปัญหาต่าง ๆ ร้อยละ 56.73 และหนักใจมาก ร้อยละ 38.78 สาเหตุที่ทำให้หนักใจ คือ ทุกอย่างขึ้นราคา ร้อยละ 80.97 รองลงมาคือ การแก้ปัญหาของ รัฐบาล ร้อยละ 57.10 ทั้งนี้ประชาชนรับมือกับปัญหาด้วยการตั้งสติ อดทน ให้กำลังใจตัวเอง ร้อยละ 76.14 โดยอยากให้ รัฐบาลรับฟังความคิดเห็น ช่วยเหลือประชาชนให้มากขึ้น ร้อยละ 75.77 ในภาพรวมรายได้ของประชาชน ณ วันนี้ไม่พอใช้ และมีหนี้สิน ร้อยละ 41.26 จากผลโพล พบว่า ประชาชน ณ วันนี้มีเงินไม่พอใช้และมีหนี้สิน หรือถึงมีพอใช้ก็ไม่มีเงินเหลือเก็บ ผนวกกับ สถานการณ์โควิด-19 ที่ลากยาวก็ยิ่งทำให้ลำบากมากขึ้น นอกจากจะหนักใจเรื่องของแพงแล้วยังหนักใจเรื่องการ บริหารงานของรัฐบาลอีกด้วย ส่วนนี้สะท้อนให้เห็นว่าการแก้ปัญหาของรัฐบาลถึงจะมาถูกทางแต่ก็ยังไม่ถูกใจประชาชน รัฐบาลซึ่งเป็นความหวังของประชาชนจึงควรรับฟังและแก้ปัญหาให้เร็วยิ่งขึ้น
นางสาวพรพรรณ บัวทอง นักวิจัย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต โทร 086-3766533
จากผลสำรวจสะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนให้ความสำคัญกับปัญหาเศรษฐกิจอย่างมาก และต้องการให้รัฐบาลแก้ไข ปัญหานี้อย่างจริงจัง รวดเร็ว ในฐานะที่ตนเป็นทั้งอาจารย์ ผู้ประกอบการและประชาชนเห็นว่ารัฐบาลควรแก้ปัญหา ให้ตรงจุด โดยเชิญผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญที่เข้าใจอย่างถ่องแท้เข้ามาช่วย ฟังเสียงประชาชนอย่างจริงใจ เข้าถึง แหล่งข้อมูลที่เป็นจริง ทางรัฐบาลนั้นเชื่อว่าขณะนี้ค่อนข้างทำงานหนักเพราะเจอสถานการณ์วิกฤติต่าง ๆ เข้ามาอย่าง ต่อเนื่อง เรียกว่า ความวัวไม่ทันหาย ความวุ่นวายอย่างอื่นก็เข้ามาแทรกตลอดเวลา ข้อสังเกตจากผลโพลอีกประการหนึ่ง ในเรื่องวิธีรับมือปัญหาหนักใจ คือ การตั้งสติ ยอมรับ ปลง นั้น อาจารย์เห็นว่าไม่ควรท้อ อย่ามองว่าเป็นปัญหา ยิ่งเป็น ผู้ประกอบการต้องไม่กลัว กล้าที่จะเผชิญกับปัญหาแล้วหาทางออกอย่างมีสติ ไม่ว่าจะฐานะใด ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนนั้นดีที่สุด เพราะจะมองเห็นปัญหาก่อนเพื่อการแก้ไขที่รวดเร็วและตรงจุด
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อนงค์นาถ ทนันชัย ประธานกรรมการบริหารหลักสูตรการจัดการบัณฑิต คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิ
Cr.สวนดุสิตโพลล์
Comentarios