top of page

เปิดโผครม.ชุดสลายขั้ว “อนุทิน-คมนาคม/ภูมิธรรม-มท.1/น้องลุงป้อม-กลาโหม/โต้ง-ขุนคลัง"ฯลฯ

การเมือง

หลังจากบรรดดา สส.และ สว.ร่วมโหวตให้ความเห็นชอบ นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 “เศรษฐา ทวีสิน” ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 272 แบบถล่มทลาย 482 เสียง เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 ซึ่งถือเป็นวันประวัติศาสตร์ เพราะนอกจากเป็นวันโหวตนายกรัฐมนตรี ยังเป็นวันที่อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่23 “ทักษิณ ชินวัตร”เดินทางกลับบ้าน เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมด้วย


ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้ รัฐสภาจะนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป อย่างไรก็ตาม สำหรับขั้นตอนหลังจากที่มีการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีแล้ว จะต้องดำเนินการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) และให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีตรวจสอบคุณสมบัติบุคคลก่อนเสนอตามขั้นตอนเพื่อโปรดเกล้าฯ ครม.


เพื่อเร่งแก้ปัญหาประชาชนที่กำลังเผชิญอยู่ ทั้งเรื่องหนี้ครัวเรือนที่นับวันเพิ่มขึ้น-การเร่งเติมเงินลงไปในกระเป๋าชาวบ้าน เพื่อเพิ่มกำลังซื้อในระบบเศรษฐกิจ-การสร้างรายได้ในอนาคต หวังลดรายจ่าย-เพิ่มรายได้-ขยายโอกาส ซึ่งต้องทำแบบคู่ขนาน


โดยเฉพาะนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทย ทั้งการลดค่าพลังงาน - การพักหนี้เกษตรกร –การเพิ่มราคาพืชผลเกษตร-การสำรวจครอบครัวที่มีรายได้ต่ำกว่า 25,000 บาท/เดือน-เงินเดือนปริญญาตรี 25,000บาท-แจกดิจิตอลวอลเลต 1 หมื่นบาทสำหรับคนไทยที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป และรวมทั้งการเร่งออกโฉนด และจัดหาที่ทำกินแก่ประชาชน 50 ล้านไร่ทั่วประเทศ และรวมทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 เป็นต้น


สำหรับรายชื่อบุคคลที่ถูกคาดหมาย จะอยู่ใน “คณะรัฐมนตรีชุดสมานฉันท์” ตามตำแหน่งและกระทรวงของพรรคร่วม ที่แถลงเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2566 ดังนี้

-พรรคภูมิใจไทย (71ที่นั่ง) รมว. 4 กระทรวง/รมช. 4 ตำแหน่ง(รองนายก1 รมช.3) อาทิ

นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี/รมว.คมนาคม

นายสรอรรถ กลิ่นปทุม รมว.เกษตรและสหกรณ์

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว. ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

นายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ท่องเที่ยว และกีฬา

นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช..มหาดไทย

นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รมช.สาธารณสุข


-พรรคพลังประชารัฐ รมว. 2 กระทรวง/รมช.2 ตำแหน่ง(40ที่นั่งมีรองนายกเพิ่ม)

พล.ต.อ พัชรวาท วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี/รมว.กลาโหม

นางสาวตรีนุช เทียนทอง รมว..วัฒนธรม

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.มหาดไทย

พลเอกวิชญ์ เทพหัสดิน รมช.กลาโหม


-พรรครวมไทยสร้างชาติ รมว.2 กระทรวง/รมช. 2ตำแหน่ง(36ที่นั่ง)

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี/รมว.พลังงาน

นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน

มล.ชโยทิต กฤษดากร รมช.พาณิชย์

-พรรคชาติไทยพัฒนา(10ที่นั่ง)

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

-พรรคประชาชาติ (9ที่นั่ง)

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยติธรรม


ส่วนพรรคเพื่อไทย มี 141 ที่นั่ง ได้รับจัดสรร 17 ตำแหน่ง อาทิ

1.นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองนายกรัฐมนตรี(กฎหมาย)

2.นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรี/รมว.มหาดไทย

3.นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี/รมว.คลัง

4.ดร.ปานปรีย์ มหิทธานุกร รมว.พาณิชย์

5.นายประเสริฐ จันทร์รวงทอง รมว. ดีอีเอส

6.ศ.ดร.กิตติ ลิ่มสกุล รมว. อว.

7.ดร.ณ หทัย ทิวไผ่งาม รมว.ศึกษาธิการ

8.ดร. นลินี ทวีสิน รมว.ต่างประเทศ

9.นายสุริยะ จึงเรื่องกิจ รมว.อุตสาหกรรม

10.นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข

ฯลฯ(ดูรายชื่อจากตาราง)

โดยพรรคเพื่อไทยลดในสัดส่วน รมช.ลง และเพิ่มในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เนื่องจากมีหน่วยงานที่สังกัดสำนักนายกสำคัญๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจ และสังคม


และเพื่อให้สอดรับกับ่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 ได้บัญญัติองค์ประกอบของคณะรัฐมนตรีไว้ในมาตรา 158 “พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอื่นอีกไม่เกินสามสิบห้าคนประกอบเป็นคณะรัฐมนตรี มีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินตามหลักความรับผิดชอบร่วมกัน”


ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า พรรคภูมิใจไทย ได้ดูแลกระทวงเก่าเกือบทั้งหมด ยกเว้น กระทรวงสาธารณสุข เช่นเดียวกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งได้ดูแลกระทรวงเดิมตามข้อต่อรองการร่วมรัฐบาล ซึ่งยืดหยุ่นและมีการประนี่ประนอม ในการเจรจามากกว่าแตกหักข้างใดข้างหนึ่ง เพราะการได้เสียงสนับสนุนก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทย ในความเป็นจริง จำต้องอาศัยทั้งเสียงจากสส.จำนวนหนึ่ง และสว.อีกจำนวนหนึ่ง สนับสนุนจึงจะผ่านได้ ทั้งหมดจึงอยู่ภายใต้สถานการณ์ win win Situation

จึงจะผ่านได้ดังปรากฎ!!!22สิงหาคม2566

เป็นสูตรคณิตศาสตร์พื้นฐานที่ไม่อาจเลี่ยงได้ หลังจากนี้จึงเป็นเรื่องผลงานอย่างเดียวที่จะพิสูจน์ว่าแนวทางเลือกนี้ไม่ได้ทำให้ประชาชนผิดหวัง หากผลงานเหล่านั้นสัมผัสได้ในเชิงประจักษ์!!!!


และไทย อาจถูกบันทึกในกินเนสบุกส์เวิร์ลเรคคอร์ดว่า เป็นประเทศแรกที่แก้ปัญหาเศรษฐกิจประเทศบรรลุความสำเร็จอีกครั้ง จากฝีมือการให้คำแนะนำของกุนซือจำเป็น ที่ถูกคุมตัวในเรือนจำของประเทศไทย (ทั้งที่ นี่ไม่ใช่ราคาที่เขาต้องจ่ายเลย แต่เพราะคิดว่า การทุกข์ทรมานในคุกเล็กๆ ดีกว่า การรับโทษในคุกขนาดใหญ่เป็นเวลาหลายสิบปี)

เพราะผลสำเร็จในเชิงประจักษ์และจับต้องได้เมื่อปี2544-2548 คือบทพิสูจน์ถึงความรู้ ความสามารถได้อย่างดี จนณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ผู้ช่วยหาเสียงเพือไทยฤดูกาลที่ผ่านมา เคยออกปากขอ "หากไม่ได้ตัว แต่ขอแค่สมองมา ก็ช่วยประเทศชาติได้"


แถม GDP ปีนี้ สภาพัฒน์ฯ ระบุว่า ขยายตัวเพียง 2.5-3% จึงน่าเป็นห่วง !!!เพราะจะมีปัญหาการจ้างงานตามมา โดยเฉพาะนักศึกษาจบใหม่.


(การคาดการณ์ โผครม.)



Kommentare


ดาวน์โหลด (1).png

เพื่อให้ทุกท่านสามารถติดตามประเด็นวิเคราะห์เจาะลึกผ่านทาง CLOSE-UP THAILAND เชิญเพิ่มเพื่อนทางไลน์ @closeupthailand

bottom of page