นายกฯ ประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการฯ ย้ำทุกส่วนราชการดำเนินนโยบายเหมาะสม รวดเร็ว ครอบคลุม มีประสิทธิภาพ ให้ประเทศก้าวหน้าประชาชนทั่วประเทศมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อวยพรผู้เกษียณมีสุขภาพใจ-กายที่แข็งแรง ใช้ชีวิตกับครอบครัวอย่างมีความสุขตลอดไป
เมื่อวันที่ 25 กันยายน2566ที่ผ่านมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 1/2566 ซึ่งสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นเจ้าภาพ โดยมี นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะผู้บริหารสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองและฝ่ายข้าราชการประจำ ผู้บริหารสำนักงาน ก.พ. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้ ก่อนการประชุมฯ นายกรัฐมนตรี ได้ถ่ายภาพร่วมกับคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า พร้อมถ่ายภาพหมู่และภาพเดี่ยวร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่าที่ครบเกษียณอายุราชการ ประจำปี 2566 ณ บริเวณโถงตึกไทยคู่ฟ้า จากนั้น นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 1/2566 โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดการประชุมฯ ว่า ในวาระการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ซึ่งถือเป็นครั้งแรก ที่ได้มาพบกับหัวหน้าส่วนราชการฯ ทุกคน และขอขอบคุณที่มาร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียงในวันนี้ พร้อมขอบคุณหัวหน้าส่วนราชการฯ ที่จะเกษียณอายุราชการ และขอชื่นชมความมุ่งมั่นตั้งใจของทุกคนที่ได้ปฏิบัติภารกิจหน้าที่ราชการ เพื่อประชาชนและประเทศชาติ ด้วยหัวใจที่เข้มแข็งจนครบเกษียณอายุราชการ ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจและความสง่างามในอาชีพราชการ และยังเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ข้าราชการรุ่นต่อไปที่จะเข้ามาสานต่อภารกิจสำคัญของประเทศในอนาคต นายกรัฐมนตรีหวังว่าผู้เกษียณอายุราชการจะถ่ายทอดสิ่งล้ำค่าที่ได้จากการทำงานคือประสบการณ์ที่ทุกคนสั่งสมมาตลอดชีวิตการรับราชการ พร้อมทั้งบอกเล่าความภาคภูมิใจในการทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน เพื่อสร้างพลังบวกให้แก่บุคลากรรุ่นต่อ ๆ ไป พร้อมขอส่งความปรารถนาดีและขออวยพรให้ผู้เกษียณทุกคนมีสุขภาพใจ สุขภาพกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ ใช้ชีวิตกับครอบครัวอย่างมีความสุขตลอดไป พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้รับชมวีดิทัศน์และบทบาทของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) มีภารกิจเกี่ยวกับการปฏิบัติราชการด้านการเมือง ด้านวิชาการ ด้านเลขานุการ ตลอดจนเป็นศูนย์ประสานการบริหารราชการของนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รวมทั้งข้าราชการการเมืองสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พร้อมมุ่งสู่การเป็นองค์การสมรรถนะสูง ให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ ท่ามกลางสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยยึดค่านิยมหลักของ สลน. คือ SPM ประกอบด้วย ความร่วมแรงร่วมใจ (Synergy) ความเป็นมืออาชีพ (Professional) และความมีคุณธรรม (Moral) โดยในปีที่ผ่านมา สลน. ก็ได้รับการประกาศยกย่องให้เป็น “องค์กรคุณธรรมต้นแบบ” และก้าวต่อไปของ สลน. จะยังคงมุ่งมั่นดำเนินการตามวิสัยทัศน์ “การเป็นองค์กรสมรรถนะสูง เพื่อขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดินของนายกรัฐมนตรีให้บรรลุผล โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง” เพื่อมุ่งรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ต่อจากนั้นหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ที่ครบเกษียณอายุราชการประจำปี 2566 กล่าวถึงประสบการณ์และความประทับใจในการปฏิบัติหน้าที่ราชการที่ผ่านมา โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าพร้อมรับฟังข้อคิดเห็นที่ดีและความปรารถนาดีของผู้เกษียณอายุราชการทุกคน ยืนยันถึงการเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีความตั้งใจจริงในการทำงานให้ดีที่สุดเพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายหัวหน้าส่วนราชการฯ โดยเน้นย้ำหัวหน้าส่วนราชการฯ ว่า ทุกนโยบายที่รัฐบาลได้แถลงต่อรัฐสภาในการบริหารราชการแผ่นดินต้องทำให้เกิดขึ้นได้จริง โดยเฉพาะในระยะเร่งด่วนนี้ ขอให้ทุกคนพิจารณาสิ่งที่ทำได้ทันทีก่อน โดยเฉพาะในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเร่งด่วน การลดค่าครองชีพ เพิ่มรายได้ทั้งเกษตรกร พ่อค้าแม่ค้า รวมทั้งการช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ให้ฟื้นตัวและกลับมาดำเนินธุรกิจได้อีกครั้ง การส่งเสริมการท่องเที่ยว รวมทั้งแก้ไขปัญหาการทุจริตคอรัปชันและยาเสพติด สำหรับในระยะกลางและระยะยาวนั้น นายกรัฐมนตรีอยากให้หัวหน้าส่วนราชการฯ วางรากฐาน และโครงสร้างพื้นฐานใหม่ให้กับประเทศ การทลายข้อจำกัดต่าง ๆ ที่ปิดกั้น การพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ รวมทั้งการสนับสนุนการสร้างพลังสร้างสรรค์ หรือ Soft Power ของประเทศ การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ การปฏิรูปการศึกษา รวมทั้งการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ประชาชนที่ครอบคลุมในทุกมิติ ตลอดจนการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยการมีส่วนร่วมของประชาชน ตามนโยบายรัฐบาลที่นายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาของทั่วโลกในปัจจุบันและอนาคต นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการที่ได้ลงพื้นที่ในหลายจังหวัด เพื่อรับทราบประเด็นปัญหา และแนวทางการพัฒนา ทำความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล รวมทั้งยังได้รับทราบความก้าวหน้าของโครงการต่าง ๆ และได้รับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากภาคส่วนต่าง ๆ ตลอดจนประชาชน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายในการแก้ไขปัญหา ปลดล็อกข้อจำกัดต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรค รวมทั้งในคราวการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรียังได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับนโยบายไปดำเนินการหลายเรื่อง จึงขอให้ทุกส่วนราชการดำเนินนโยบายอย่างเหมาะสม รวดเร็ว ครอบคลุม และมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประเทศไทยก้าวหน้า ประชาชนทั่วประเทศมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พร้อมขอเป็นแรงใจให้หัวหน้าส่วนราชการฯ ทุกคนทำภารกิจตามหน้าที่ความรับผิดชอบให้สำเร็จลุล่วงตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังเน้นย้ำให้ทุกส่วนราชการให้ความสำคัญกับการแต่งตั้งโยกย้ายด้วยความเป็นธรรมซึ่งนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญเรื่องนี้อย่างมาก โดยยืนยันจะพยายามให้ความเป็นธรรมให้มากที่สุด และขอความร่วมมือกับหัวหน้าส่วนราชการฯ ทุกคนช่วยกันดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง ภายหลังการประชุมฯ นายกรัฐมนตรีได้มอบของที่ระลึกแก่หัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ที่ครบเกษียณอายุราชการ ประจำปี 2566 พร้อมร่วมรับประทานหารกลางวันกับคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่าด้วย สำหรับหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่าที่ครบเกษียณอายุราชการ ประจำปี 2566 มีจำนวน 10 ราย ประกอบด้วย 1) นายธนากร บัวรัษฏ์ ผู้อานวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ 2) พลเอก สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ 3) นายสิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม 4) นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน 5) นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน 6) นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 7) นายปวัตร์ นวะมะรัตน เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 8) พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ 9) พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 10) นายขจิต ชัชวานิตย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร
コメント