การเมือง

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค ยืนยันมติ 8 พรรคร่วมฝ่ายประชาธิปไตย ให้ความเห็นชอบ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี โดยพรรคเพื่อไทยจะเป็นผู้เสนอชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ต่อที่ประชุมรัฐสภา
.
1. นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยืนยันที่ประชุมร่วม 8 พรรคฝ่ายประชาธิปไตย มีความชัดเจนในการเสนอชื่อและลงมติให้ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ เป็นนายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทย โดย ‘นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว’ จะเป็นผู้เสนอชื่อ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ ต่อที่ประชุมรัฐสภา
.
2. นายแพทย์ชลน่าน ย้ำว่า “พรรคเพื่อไทยพร้อมทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ในการลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 13 กรกฎาคม” และเชื่อมั่นว่าทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี
.
3. สำหรับข้อกังวลจากฝ่ายต่างๆ เรื่องเสียงสนับสนุนจากฝ่าย ส.ว. นั้น นายแพทย์ชลน่าน เปิดเผยว่า ‘ชัยธวัช ตุลาธน’ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคก้าวไกล ยืนยันต่อที่ประชุม 8 พรรคร่วมฝ่ายประชาธิปไตย ว่ายังอยู่บนพื้นฐานของความพยายามที่จะประสานงานเพื่อหาเสียงสนับสนุนให้ได้มากที่สุด
.
4. เช่นเดียวกับ ‘ภูมิธรรม เวชยชัย’ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ย้ำว่า 8 พรรคร่วมฝ่ายประชาธิปไตยมีแผนเดียวเท่านั้น คือเสนอชื่อ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ เป็นนายกรัฐมนตรี ตามที่ได้เคยประกาศอย่างตรงไปตรงมาและจะผลักดันอย่างเต็มความสามารถ
.
5. ‘ภูมิธรรม’ ย้ำว่า วันนี้ต้องยืนหยัดในข้อเท็จจริงว่าทั้ง 8 พรรคร่วมได้ประกาศสนับสนุนพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี และแต่ละพรรคจะต้องทำให้บรรลุเป้าหมายสำคัญที่ตั้งกันเอาไว้ ประเด็นที่ฝ่ายต่างๆ เสนอออกมาล้วนที่นอกเหนือจากแนวทางของ 8 พรรคร่วมล้วนแต่เป็นการคาดเดา
.
6.ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเมินหรือไม่ว่าจะต้องประชุมรัฐสภากี่ครั้งถึงได้นายกรัฐมนตรีนั้น ‘ภูมิธรรม’ ยืนยันว่า จะกี่ครั้งเราก็จะทำหน้าที่เต็มกำลังความสามารถ เพื่อประกาศเจตนารมณ์ให้เห็นว่า เราตั้งใจและพยายามทำหน้าที่ในการเลือกนายกรัฐมนตรีของประเทศอย่างเต็มที่
ก่อนหน้านี้เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย เชื่อมั่นว่าพรรคฝ่ายประชาธิปไตยมีความหวังในการสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จากพรรคก้าวไกลเป็นนายกรัฐมตรี ในการประชุมรัฐสภาเพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี อีกทั้งแกนนำพรรคก้าวไกลก็แสดงความมั่นใจในการรวบรวมเสียงสนับสนุน ใกล้ถึง 376 เสียงแล้ว จึงขอเป็นให้กำลังใจ พร้อมทั้งแสดงความเชื่อมั่นว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทย จะไม่ “แตกแถว” ในการลงมติครั้งนี้อย่างแน่นอน
.
1. ขณะนี้ 8 พรรคร่วมฝ่ายประชาธิปไตยมีเสียงรวมกันแล้ว 312 เสียง ต้องการอีกแค่ 64 เสียงจะถึง 376 เสียงก็น่าจะผ่านได้ เรายังมีความหวังและยังมั่นใจ โดยเฉพาะเมื่อได้ยินจาก พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกลที่ยืนยันว่าได้เสียงจวนครบแล้ว ก็ยิ่งทำให้มีกำลังใจมากยิ่งขึ้น
.
2. สำหรับเสียงของ ส.ว. แม้อาจจะมีผู้ให้ความเห็นว่าจะไม่เลือก ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ แต่ก็ยังมี ส.ว. อีกหลายท่านเช่นกันที่ไม่ได้ให้ความเห็น จึงเชื่อว่า ในวันเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น ส.ว.ก็น่าที่จะทำตามฉันทามติประชาชน
.
3. ในการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงโอกาสในการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีอาจไม่ผ่านตามกระแสข่าว ซึ่ง ‘เศรษฐา’ กล่าวว่า ต้องไปดูรายละเอียดว่าคะแนนเสียงเป็นอย่างไร แต่ส่วนตัวเชื่อว่าควรมีการให้โอกาส ถ้าห่างเพียงเล็กน้อยก็ควรต้องให้โอกาส แต่ในส่วนของพรรคเพื่อไทยนั้นยืนยันตามความเห็นของ 8 พรรคร่วมฝ่ายประชาธิปไตย เพราะพวกเราคือพวกเดียวกันและต้องโหวตให้กัน ส่วนจะโหวตกันกี่ครั้งนั้นขอทุกฝ่ายอย่าคิดไปไกล ขอให้เดินกันทีละก้าว เป็นไปตามขั้นตอนก่อนดีกว่าและเรื่องนี้เป็นเรื่องของประธานสภาซึ่งจะไม่ก้าวล่วง
.
4. ‘เศรษฐา’ ยืนยันว่า ทั้ง 8 พรรคคือฝ่ายประชาธิปไตยด้วยกัน ร่วมลงนามใน MOU ร่วมกันแล้ว ก็เหมือนเราตัวติดกัน เรื่องแยกจากกันไม่เคยได้ยิน อีกทั้งพรรคฝ่ายประชาธิปไตยได้ทำให้เห็นมาแล้วตอนลงมติเลือกประธานสภา สามารถผ่านมาได้ด้วยดี ซึ่งก็หวังว่าในการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีก็จะจบลงด้วยดีเช่นเดียวกัน
Comments