มุ่งสนับสนุนสังคมให้โอกาส ตระหนักถึงความเท่าเทียมกัน
เวิร์คชอปศิลปะในหัวข้อ “Health is the Greatest Wealth” โดย บมจ. หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ร่วมกับ Artstory By AutisticThai จัดขึ้นเพื่อมอบรางวัลให้กับน้องๆ ศิลปินออทิสติกที่ส่งผลงานเข้าประกวด ถือเป็นกิจกรรมที่สร้างความอิ่มเอิบใจให้กับทุกฝ่าย แต่งานนี้ไม่ได้สร้างสีสันเพียงเพราะเป็นการทำกิจกรรมเพื่อสังคมกับกลุ่มเด็กพิเศษเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงแนวคิดการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน (ESG) ผ่านการช่วยเหลือสังคมอย่างครบวงจรของเมย์แบงก์ และยังสอดแทรกเรื่องความเท่าเทียมในสังคม ในแคมเปญนี้อีกด้วย
การสร้างสรรค์โครงการด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสานต่อแนวคิดการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน เป็นเรื่องที่ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ให้ความสำคัญและต้องการส่งต่อเรื่องราวดีๆ ในสังคมอย่างเป็นรูปธรรม จึงเกิดเป็นกิจกรรมสนับสนุนมูลนิธิออทิสติกไทยในด้านศิลปะ ล่าสุดกับการจัดเวิร์คชอปในหัวข้อ “Health is the Greatest Wealth” โดยมีน้องๆ ศิลปินออทิสติกมูลนิธิออทิสติกไทย ร่วมกิจกรรมวาดรูประบายสีงานศิลปะของตนเองร่วมกับผู้บริหารและพนักงานเมย์แบงก์
นายอารภัฎ สังขรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ความร่วมมือกับ Artstory By AutisticThai ในการจัดกิจกรรมนี้ขึ้นจะสะท้อนให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ที่น่าทึ่ง และความหลากหลายทางความคิดของกลุ่มเด็กออทิสติกที่มีความสามารถด้านศิลปะอันโดดเด่น
ไฮไลท์ของงาน คือการประกาศผลการประกวดภาพวาดในหัวข้อ “Health is the Greatest Wealth” ซึ่งผลงานของน้องฟ้าใส-น.ส.พิมมาดา เบ็ญจวิไลโกศล กับภาพวาด “เด็กผู้หญิงขี่เสือ” ที่มีองค์ประกอบภาพเป็นเด็กผู้หญิงที่มีความสุขนั่งอยู่บนหลังเสือรายล้อมไปด้วยผลไม้นานาชนิด สื่อถึงการดูแลสุขภาพด้วยการทานผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อีกทั้งในแง่ของเทคนิคการจัดวางภาพที่มีทั้ง 3 มิติ แบ่งได้ว่าระยะหน้า ระยะกลาง ระยะหลัง ซึ่งเป็นผลงานที่โดดเด่นและแตกต่างจากน้องออทิสติกส่วนใหญ่ที่มักจะวาดภาพ 2 มิติ จึงสามารถชนะใจกรรมการได้รับเงินรางวัลมาครองได้ ในขณะที่น้องๆ ที่ได้รับรางวัลชมเชยอีก 4 รางวัลต่างก็มีความจัดจ้านด้านการใช้สีและมุมมองในการถ่ายทอดผลงานที่บ่งบอกตัวตนและสามารถตีความโจทย์ที่ได้รับถ่ายทอดออกมาเป็นชิ้นงานได้อย่างน่าชื่นชมเช่นกัน
ครูเฟรด-ธนภัทร เลิศไกร เล่าให้ฟังว่าผลงานของน้องออทิสติกทุกคนจะมี “ลายเซ็น” หรือคาแรกเตอร์ของตัวเองชัดเจน เช่นน้องที่ชอบดนตรี จะใส่ความเป็นนักดนตรีเข้าไปในผลงานของตนเองได้อย่างกลมกลืนเสมอ หรือผลงานที่ชนะรางวัลชนะเลิศของน้องฟ้าใส ก็สามารถใส่ความเป็นตัวเองที่ชอบผลไม้ เล่นกีฬา เข้ากับโจทย์ที่ต้องมี “เสือ” สัญลักษณ์ของเมย์แบงก์ได้อย่างลงตัว ซึ่งสิ่งเหล่านี้สะท้อนความเป็นศิลปินของน้องๆ ได้อย่างชัดเจน
ความโดดเด่นนี้เอง ทำให้เมย์แบงก์มองเห็นศักยภาพของกลุ่มออทิสติกที่สามารถจะใช้ทักษะด้านศิลปะของตนเองพัฒนาเป็นอาชีพสร้างรายได้ และยังช่วยขับเคลื่อนให้สังคมยอมรับและยกระดับ “ศิลปินออทิสติก” ให้เป็นที่รู้จักในสังคมอีกด้วย
นอกจากผลงานของน้องๆ ผู้ร่วมกิจกรรมเวิร์คชอปร่วมกับผู้บริหารเมย์แบงก์ทั้ง 15 ผลงาน จะได้รับการจัดแสดงที่สำนักงานแล้ว ผลงานภาพวาดที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ และรางวัลชมเชยในครั้งนี้จะได้รับการต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อระดมทุนและสมทบทุนให้กับมูลนิธิออทิสติกไทย ในโอกาสต่างๆ ต่อไป
โดยเฉพาะผลงาน “เด็กผู้หญิงขี่เสือ” จะนำไปเป็นคีย์หลักของงานวิ่งการกุศล TIGER RUN ที่จะจัดขึ้นเร็วๆ นี้ โดยเมย์แบงก์ ส่วนผลงานชมเชยจะได้รับการสนับสนุนจากสปอนเซอร์ รังสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อนำรายได้ไปจัดหาอุปกรณ์การเรียนศิลปะ พัฒนาบุคลากร รวมถึงการปรับปรุงสถานที่ เพื่อขยายพื้นที่ และโอกาสในการสร้างศิลปินออทิสติกหน้าใหม่ ทั้งยังใช้สนับสนุนความสามารถด้านต่างๆ ของกลุ่มคนพิเศษต่อไป นับเป็นการสะท้อนแนวทางสร้างความยั่งยืนขององค์กรได้เป็นอย่างดี
ซีอีโอ บมจ. หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวต่อว่า จากความตั้งใจทำสิ่งที่เป็น Social Impact ในไทย และต้องการเดินหน้าแนวคิดในการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน (ESG) ของเมย์แบงก์ โดยเฉพาะการสนับสนุนความเท่าเทียมกันในสังคม ทำให้เมย์แบงก์เห็นความสำคัญของกลุ่มเด็กและเยาวชนที่เป็นออทิสติก ซึ่งมีศักยภาพและสามารถต่อยอดได้ พวกเขาควรได้รับโอกาสทางสังคมที่มากขึ้น เพื่อให้มีรายได้ที่จะเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวในอนาคต และอยู่ร่วมกับคนในสังคมได้อย่างยั่งยืน
“สิ่งที่เราทำสามารถสร้าง Impact ให้กับสังคมได้ เป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับสังคมในระยะยาว ซึ่งผลงานศิลปะของน้องๆ จะถูกนำไปใช้กับผลิตภัณฑ์ต่างๆ และยังเป็นลิขสิทธิ์ที่สร้างรายได้ต่อเนื่องให้กับพวกเขา เปรียบเหมือนการสร้างความยั่งยืนในสังคม และสิ่งนี้ยังเป็น DNA ขององค์กร ที่ทำให้พนักงานทุกคนตระหนัก และซึมซับเรื่อง Sustainability ด้วยเช่นกัน”
เช่นเดียวกับ นายชูศักดิ์ จันทยานนท์ ประธานมูลนิธิออทิสติกไทย ที่มองว่ากิจกรรมนี้นับเป็นโอกาสดีที่เด็กๆ จะได้นำเสนอผลงานตัวเองไปสู่สังคม สื่อถึงการให้เกียรติกันและกัน และสอดแทรกสนับสนุนเรื่องความเท่าเทียมกันในสังคม ช่วยยกระดับสังคมอยู่เย็นเป็นสุขไปด้วยกัน อีกทั้งโครงการสนับสนุนจากเมย์แบงก์ ยังสามารถต่อยอดเป็นแพลตฟอร์มคุณภาพที่จะสร้างแรงบันดาลใจขยายผลงานศิลปะของน้องๆ ออทิสติกให้มีพื้นที่มากขึ้น ทั้งยังสร้างมูลค่าทางด้านศิลปะ และเป็นทางเลือกในอาชีพที่มากขึ้น รวมถึงการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สร้างรายได้ให้กับเด็กพิเศษ และช่วยพัฒนาสังคม สอดคล้องกับแนวทางการทำงานที่ยั่งยืนนั่นเอง
Comments