และในรายงานชิ้นนี้ "ผู้ว่าพาไปเที่ยว” แบบพิเศษ กับคนพิเศษ 1 day trip เพราะขบวนนี้ เพื่อผู้ด้อยโอกาส!


ด้วยเจตนารมณ์ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ ผ่านทางรถไฟ และร่วมย้อนรอยประวัติศาสตร์ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)ได้มีกิจกรรม และโปรแกรมนำเที่ยวในรอบปี แทบจะเรียกว่า เกือบทุกเดือนเลยทีเดียว ทั้งการจัดเดินขบวนรถนำเที่ยวพิเศษใน 6 โอกาสพิเศษ และวันสำคัญของทุกปี และการท่องเที่ยว แบบเช้าไป -เย็นกลับ หรือ1 day Trip


เริ่มต้น เราจะพาไปตามรอยเส้นทาง หัวรถจักรไอน้ำพาเที่ยว ใน“ขบวนรถนำเที่ยวพิเศษใน 6 โอกาสพิเศษ” ไปที่ไหนกันบ้าง? และแต่ละแห่งผู้ร่วมขบวนฯ จะได้สัมผัสกับอะไร?
อย่ารอช้าตามกันไปเล้ยย...!!!!!
โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้นำหัวรถจักรไอน้ำแปซิฟิค หมายเลข 824 และ 850 รุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ผลิตโดยบริษัท นิปปอน ชาร์เรียว ซึ่งปัจจุบันได้เก็บรักษาและซ่อมบำรุงอยู่ที่โรงรถจักรธนบุรี นำมาจัดเดินขบวนรถนำเที่ยวพิเศษใน 6 โอกาสพิเศษและวันสำคัญของทุกปี ประกอบด้วย
1. วันที่ 5 ธันวาคม วันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เส้นทางกรุงเทพ – ฉะเชิงเทรา – กรุงเทพ
2. วันที่ 26 มีนาคม วันสถาปนากิจการรถไฟ เส้นทางกรุงเทพ – อยุธยา – กรุงเทพ
3. วันที่ 3 มิถุนายน วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เส้นทางกรุเทพ – นครปฐม – กรุงเทพ
4. วันที่ 28 กรกฎาคม วันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เส้นทางกรุงเทพ – อยุธยา – กรุงเทพ
5. วันที่ 12 สิงหาคม วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เส้นทางกรุงเทพ – ฉะเชิงเทรา – กรุงเทพ
6. วันที่ 23 ตุลาคม วันปิยมหาราช เส้นทางกรุงเทพ – อยุธยา – กรุงเทพ
“การจัดกิจกรรม เดินขบวนพิเศษรถจักรไอน้ำนำเที่ยว เฉลิมพระเกียรติ เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาสุดมิได้...”
นั่น คือเป้าหมาย และที่มากิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้นแต่ละครั้งซึ่งนายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทยมาแชร์เรื่องราวให้รับทราบกัน
“ตามรอยเส้นทาง วันพ่อ”
เส้นทางกรุงเทพ – ฉะเชิงเทรา – กรุงเทพ

เรามาเริ่มทริปแรก!!!
5 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และรัฐบาลยังได้กำหนดให้เป็นวันชาติ วันศูนย์รวมจิตใจความสมัครสมานสามัคคีของคนในชาติ และวันพ่อแห่งชาติ การรถไฟฯ จึงได้จัดกิจกรรม จัดเดินขบวนพิเศษรถจักรไอน้ำนำเที่ยว เฉลิมพระเกียรติ เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาสุดมิได้


โดยในวันนี้ ขบวนรถจักรไอน้ำพิเศษนำเที่ยวเส้นทางกรุงเทพ – ฉะเชิงเทรา – กรุงเทพ ขบวนที่ 903/904 จะออกจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เวลา 08.10 น. ถึงสถานีฉะเชิงเทราเวลา 09.50 น. นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวภายในจังหวัดฉะเชิงเทราได้ตามอัธยาศัยประมาณ 6 ชั่วโมง อาทิ กราบสักการะหลวงพ่อพระพุทธโสธร พระพุทธรูปสำคัญของจังหวัดฉะเชิงเทรา ณ วัดโสธรวรารามวรวิหาร ไหว้ขอพรพระพิฆเนศวัดสมานรัตนาราม เดินชม ช้อปสินค้าที่ตลาดบ้านใหม่ จากนั้นขบวนรถเที่ยวกลับออกจากสถานีฉะเชิงเทรา เวลา 16.30 น. ถึงกรุงเทพ เวลา 18.10 น. โดยมีสถานีที่หยุดรับ - ส่งผู้โดยสาร ได้แก่ สถานีมักกะสัน คลองตัน หัวหมาก ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นหรือลงตามสถานีดังกล่าว ขณะเดียวกันยังขอเชิญชวนประชาชนทั่วไปที่อาศัยอยู่ใกล้เส้นทางรถไฟสายกรุงเทพ – ฉะเชิงเทรา สามารถร่วมบันทึกภาพหัวรถจักรไอน้ำในเส้นทางที่ขบวนรถวิ่งผ่านได้ตลอดเส้นทาง
ตามรอยเส้นทางเที่ยว
”วันคล้ายวันสถาปนากิจการรถไฟ”
สาย กรุงเทพ - อยุธยา – กรุงเทพฯ


วันการรถไฟ!!!26 มีนาคม ของทุกปี
โดยในโอกาสสำคัญ วันคล้ายวันสถาปนากิจการรถไฟทุกปี การรถไฟ ได้นำหัวรถจักรไอน้ำแปซิฟิค หมายเลข 824 และ 850 รุ่นหลังสงครามโลก พาเที่ยวย้อนรอยประวัติศาสตร์ สาย กรุงเทพ - อยุธยา – กรุงเทพฯ


“การจัดเดินขบวนพิเศษรถจักรไอน้ำนำเที่ยว เส้นทางกรุงเทพ - อยุธยา เพื่อย้อนอดีตบนเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ ร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิดการเดินรถไฟระหว่างสถานีกรุงเทพ - สถานีกรุงเก่า เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2439…”ความสำคัญและความหมาย เพราะเหตุใดจึงต้องพาย้อนรอยกันที่นี้ โดยผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือรฟท.

และเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากิจการรถไฟครบรอบ 126 ปี
วันที่ 26 มีนาคม 2566 ที่สถานีรถไฟอยุธยา ประชาชนจำนวนมาก เดินทางเข้าถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับขบวนรถจักรไอน้ำนำเที่ยว ขบวนพิเศษ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากิจการรถไฟครบรอบ 126 ปี วันที่ 26 มีนาคม 2566 โดยการรถไฟฯ ได้จัดเดินขบวนพิเศษรถจักรไอน้ำนำเที่ยว เส้นทางกรุงเทพ–อยุธยา พร้อมกับเปิดโอกาสให้ประชาชน และนักท่องเที่ยว ได้ร่วมเดินทางย้อนอดีตบนเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ และร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิดการเดินรถไฟระหว่างสถานีกรุงเทพ - สถานีกรุงเก่า เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2439
สำหรับการจัดเดินขบวนพิเศษรถจักรไอน้ำนำเที่ยวประวัติศาสตร์ เส้นทางกรุงเทพ – อยุธยา – กรุงเทพ การรถไฟฯ ได้นำหัวรถจักรไอน้ำ รุ่นแปซิฟิก หมายเลข 824 และ 850 รุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ผลิตโดยบริษัท นิปปอน ชาร์เรียว จำกัด ซึ่งปัจจุบันได้เก็บรักษาและซ่อมบำรุงอยู่ที่โรงรถจักรธนบุรีมาให้บริการลากจูง ในขบวนที่ 901/902

ตามกำหนดรถจักรไอน้ำนำเที่ยวประวัติศาสตร์ เส้นทางกรุงเทพ - อยุธยา – กรุงเทพฯ ออกจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เวลา 08.10 น. ถึงสถานีอยุธยา เวลา 10.20 น. นักท่องเที่ยวมีเวลาเดินทางไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และท่องเที่ยวโบราณสถานที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ หรือร้านอาหารแบบผสมผสานกับบรรยากาศของความเป็นเมืองเก่าประมาณ 6 ชั่วโมง และเดินทางกลับออกจากสถานีอยุธยา เวลา 16.40 น. ถึงกรุงเทพ เวลา 18.55 น.
ครบรอบ 126 ปี วันที่ 26 มีนาคม 2566 ....!!!
พิเศษ!!!สุด สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางทริปปีนี้ รฟท. ร่วมกับ ททท.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มอบบัตรเข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา ที่จัดแสดงโบราณวัตถุที่พบจากกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะ และโบราณวัตถุในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ฟรี!! เพียงแสดงตั๋วโดยสารรถไฟที่จุดลงทะเบียนบริเวณทางเข้าอาคารพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา




และพิเศษกว่าใคร นักท่องเที่ยว ที่เดินทางไปกับขบวนรถ KIHA183 ในเส้นทางกรุงเทพ-อยุธยา สัมผัสมนต์เสน่ห์กรุงเก่า เมืองหลวงยุค "ออเจ้า" ที่รุ่งเรืองของไทย ด้วยขบวนรถไฟจากฮอกไกโดอีกด้วย


ขบวนรถพิเศษนำเที่ยวรถจักรไอน้ำประวัติศาสตร์
วันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
สาย กรุงเทพ - อยุธยา – กรุงเทพฯ
และวันที่ 28 กรกฎาคม ตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร การรถไฟแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคม ได้จัดขบวนรถพิเศษนำเที่ยวรถจักรไอน้ำประวัติศาสตร์ เส้นทาง กรุงเทพ - อยุธยา - กรุงเทพ เฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ความสำคัญ การเปิดเดินขบวนรถพิเศษนำเที่ยวรถจักรไอน้ำเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎร

โดยเปิดโอกาสให้ประชาชน ได้ร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่มีต่อปวงชนชาวไทย และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์การเดินทางของรถไฟไทย ผ่านขบวนรถจักรไอน้ำประวัติศาสตร์ เปิดนักท่องเที่ยวเดินทางไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และท่องเที่ยวโบราณสถานที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และอุดหนุนสินค้าในชุมชน


“รฟท. คาดหวังการเปิดเดินขบวนรถพิเศษรถจักรไอน้ำนำเที่ยว เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยสนับสนุนการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศให้กลับมาฟื้นตัวตามนโยบายของรัฐบาล ทำให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ กระจายรายได้ สร้างความเข้มแข็งสู่เศรษฐกิจฐานราก และชุมชนให้กลับมามีความเข้มแข็งยั่งยืนอีกครั้ง..” สิ่งที่ได้นอกเหนือจากความภูมิใจกับประวัติศาสตร์ และอิ่มใจจากการทำบุญ คือการได้ช่วยเศรษฐกิจในชุมชนพร้อมๆกันด้วย
ตามขบวนพิเศษรถจักรไอน้ำนำเที่ยว
“วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา”
เส้นทาง กรุงเทพฯ-นครปฐม-กรุงเทพ
และเนื่องในวันที่ 3 มิถุนายน ตรงกับวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี การรถไฟฯ ได้จัดเดินขบวนพิเศษรถจักรไอน้ำนำเที่ยว เส้นทางกรุงเทพณ-นครปฐม พร้อมเปิดโอกาสให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางเพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติและแสดงความจงรักภักดี สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ที่ทรงสร้างประโยชน์สุขต่อประชาชนและประเทศชาติตลอดมา

สำหรับขบวนพิเศษรถจักรไอน้ำนำเที่ยวเส้นทางกรุงเทพฯ-นครปฐม-กรุงเทพฯ เดินทางออกจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ตั้งแต่เวลา 08.10 น. ถึงสถานีนครปฐม เวลา 10.10 น. ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไหว้พระปฐมเจดีย์ แลนด์มาร์กของจังหวัดนครปฐม และท่องเที่ยวภายในจังหวัดนครปฐม ประมาณ 6 ชั่วโมง จากนั้นเที่ยวกลับออกจากสถานีนครปฐม เวลา 16.30 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 18.30 น.

โดยมีสถานีที่หยุดรับ-ส่งผู้โดยสาร ได้แก่ สถานีสามเสน บางซื่อ บางบำหรุ ศาลายา ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นหรือลงตามสถานีดังกล่าว ขณะเดียวกันยังขอเชิญชวนประชาชนทั่วไปที่อาศัยอยู่ใกล้เส้นทางรถไฟสายกรุงเทพ-นครปฐม สามารถร่วมบันทึกความทรงจำในเส้นทางที่ขบวนรถวิ่งผ่านได้เช่นกัน
จัด“ขบวนรถไฟแห่งความทรงจำ”ในวันแม่
เพื่อเฉลิมพระเกียรติในวันเฉลิมพระชนมพรรษา
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เส้นทางกรุงเทพ - ฉะเชิงเทรา – กรุงเทพ


เนื่องในโอกาสวันที่ 12 สิงหาคม เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตา ด้วยพระราชปณิธานอันแน่วแน่ มั่นคง ทรงบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแก่อาณาประชาราษฎร์ และพัฒนาประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรือง นำมาซึ่งความร่มเย็นเป็นสุขของพสกนิกรทั่วทั้งแผ่นดิน นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

การรถไฟฯ จัดเดินขบวนรถจักรไอน้ำเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เส้นทางกรุงเทพ - ฉะเชิงเทรา - กรุงเทพ ที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง)
เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางเพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติและแสดงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ที่ทรงสร้างประโยชน์สุขต่อประชาชนและประเทศชาติตลอดมา
ตามขบวนรถจักรไอน้ำประวัติศาสตร์
“วันปิยมหาราช”
สัมผัสเส้นทางประวัติศาสตร์ กรุงเทพ – พระนครศรีอยุธยา


และอีกวันสำคัญ “วันปิยมหาราช” ตรงกับวันที่ 23 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เป็นอีกโอกาสที่การรถไฟฯ ได้นำรถจักรไอน้ำมาจัดเดินขบวนรถพิเศษนำเที่ยวในเส้นทางระหว่างกรุงเทพ -อยุธยา-กรุงเทพ เพื่อแสดงออกซึ่งความจงรักภักดี และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์

โดยขบวนรถจักรไอน้ำพิเศษนำเที่ยว เส้นทางกรุงเทพ – อยุธยา – กรุงเทพ จะออกจากสถานีกรุงเทพ เวลา 08.10 น. ถึงสถานีอยุธยา เวลา 10.15 น. นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวภายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประมาณ 6 ชั่วโมง ส่วนเที่ยวกลับจะออกจากสถานีอยุธยา เวลา 16.40 น. ถึงกรุงเทพ เวลา 18.45 น. โดยมีสถานีที่หยุดรับ - ส่งผู้โดยสาร ได้แก่ สถานีสามเสน บางซื่อ บางเขน หลักสี่ ดอนเมือง รังสิต นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นหรือลงตามสถานีดังกล่าวข้างต้นได้ ซึ่งประชาชนทั่วไปที่อาศัยอยู่ใกล้เส้นทางรถไฟสายกรุงเทพ – อยุธยา –กรุงเทพ ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไปกับขบวนรถพิเศษ ยังสามารถบันทึกภาพหัวรถจักรไอน้ำในเส้นทางที่ขบวนรถวิ่งผ่านได้


ทั้งหมด คือ 6 ทริป 6 วันสำคัญ…!!!รู้แบบนี้ เตรียมวางแผนล่วงหน้ากันเสียแต่เนิ่นนนน!!!!หรือสนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเว็บไซต์ www.railway.co.th หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
6ทริปจบ แต่เรื่องราวการรถไฟกับบทบาทส่งเสริมการท่องเที่ยวยังไม่จบ!!!เพราะนอกจากการส่งเสริมการท่องเที่ยวในวันสำคัญ และร่วมรำลึกประวัติศาสตร์ในวันสำคัญแล้ว!!!
ซึ่งภายหลังสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก และประเทศไทยเบาบางลง ทำให้ผู้คนเดินทางท่องเที่ยว ทั้งระหว่างประเทศ และการท่องเที่ยวภายในประเทศเองมากขึ้น โดยสำหรับประเทศไทย ภายหลังเปิดประเทศ ก็มีมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในหลากรูปแบบ เพื่อรองรับทั้งนักท่องเที่ยวในประเทศ และนักท่องเที่ยวต่างประเทศ การรถไฟแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคม ซึ่งมีบทบาทในการส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านทางรถไฟมาต่อเนื่อง

ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย “นายนิรุฒ มณีพันธ์ “ก็ต้องการให้การรถไฟแห่งประเทศไทย เข้าไปมีส่วนร่วมสนับสนุนการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ เพื่อก่อให้เกิดการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น และสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การรถไฟฯ ได้เนินบทบาท อยู่ระหว่างการจัดทำโปรแกรมท่องเที่ยวทุกวันเสาร์-อาทิตย์ไปในเส้นทางจังหวัดต่างๆ


โดยเฉพาะแคมเปญที่เรียกว่า “1day trip” เที่ยวแบบไป-กลับกรุงเทพ และจังหวัดต่างๆในวันเดียว อาทิ ทริป สุดชิค “นั่งรถไฟ KIHA 183 เที่ยวราชบุรี และเพชรบุรี” เลือกได้ 2 แบบ 2 สไตล์ เที่ยวแบบเช้าไป-เย็นกลับ 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทาง กรุงเทพ-ราชบุรี-กรุงเทพ จำนวน 2 เที่ยว เมื่อวันที่ 4 และ 5 มีนาคม 2566 และเส้นทางกรุงเทพ-เพชรบุรี-กรุงเทพ จำนวน 2 เที่ยว ในวันที่ 18 และ 19 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมาโดยจำกัดจำนวน 200 ที่นั่งต่อเที่ยวเท่านั้น !!!!ปรากฎได้รับความสนใจจองกันมาแบบเต็มพิกัด และผู้ร่วมในขบวนเดินทางต่างสนุกสนานกลับไป



“การจัดโปรแกรมท่องเที่ยวรถไฟวันเดย์ทริป “นั่งรถไฟ KIHA 183” เที่ยวราชบุรี และเพชรบุรี เป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างการรถไฟฯ กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และหน่วยงานพันธมิตรภาครัฐ ภาคเอกชน ในจังหวัดราชบุรี และจังหวัดเพชรบุรี...เพื่อส่งเสริมการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนในการมีนักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชม และการใช้จ่าย เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจทางอ้อม!!!

โดยผู้ร่วมทริป ได้สัมผัสกับจุด Unseen ของการรถไฟฯ เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์จากบริเวณกลางสะพานคานขึงแห่งแรกของประเทศไทย จากนั้นได้เยี่ยมชม “พิพิธภัณฑ์แห่งชาติราชบุรี” ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นถิ่น สักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดขนอน และพิพิธภัณฑ์หนังใหญ่ ชมการเชิดหนังใหญ่ มหรสพโบราณที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติไทย และไปต่อที่ ตลาดด่านขนอน ตลาดที่โดดเด่นด้านวัฒนธรรม เดินทางต่อเพื่อไปร่วมกิจกรรม “เพ้นท์โอ่ง” ปิดท้ายกิจกรรมที่ตลาด “กาดวิถีชุมชนคูบัว” หนึ่งในแลนด์มาร์กที่เที่ยวใหม่จังหวัดราชบุรี สัมผัสวิถีชีวิตชุมชนชาวไทยวน เดิมชม ชิม ช้อป อาหารและของฝากท่ามกลางบรรยากาศตลาดโบราณ