#Roadmapรถรับส่งนักเรียนปลอดภัย”กรมการขนส่งทางบก ผนึกกำลังภาคีเครือข่าย คิก ออฟ “Roadmap รถรับ - ส่งนักเรียนปลอดภัย” ยกระดับคุณภาพชีวิตเด็กไทยสู่มาตรฐานสากล

พร้อมผลักดันรถนักเรียนต้นแบบภายใต้แคมเปญ “ให้ทาง ให้ชีวิต ให้ความสุข” เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางของนักเรียน

นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) จัดการประชุมหารือแนวทางการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของรถรับ - ส่งนักเรียน ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 เวลา 13.45 น. ณ ห้องประชุม 1 อาคาร 1 ขบ. โดยมีผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน สภาองค์กรของผู้บริโภค รวมถึงผู้ทรงคุณวุฒิด้านความปลอดภัยทางถนนระดับประเทศ อาทิ นายแพทย์อนุชา เศรษฐเสถียร และนายแพทย์ธนะพงษ์ จินวงษ์ ร่วมการประชุมเพื่อร่วมกันหารือแนวทางแก้ไขปัญหารถรับ - ส่งนักเรียนในประเทศไทย ที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของเด็กและเยาวชนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงหาแนวทางการแก้ไขปัญหาในรูปแบบ Roadmap บูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ในการยกระดับคุณภาพชีวิตของเด็กไทยผ่านการสร้างมาตรฐานความปลอดภัยในการเดินทาง โดยได้วาง “Roadmap การแก้ไขปัญหาและพัฒนาคุณภาพรถรับ - ส่งนักเรียน” ที่สำคัญโดยแบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่

ระดับที่ 1 การใช้เทคโนโลยีและฐานข้อมูลดิจิทัล (Data & Regulation) ยกระดับการกำกับดูแลด้วยระบบฐานข้อมูลดิจิทัลผ่าน Schoolbussafety.dlt.go.th เชื่อมโยงข้อมูลรถ คนขับ และเส้นทาง ระหว่างโรงเรียนและ ขบ. เพื่อให้ผู้ปกครองตรวจสอบได้ ควบคู่ไปกับแคมเปญสร้างสรรค์ "ให้ทาง ให้ชีวิต ให้ความสุข" ร่วมกับ สสส. และการปรับปรุงกายภาพตัวรถให้ชัดเจนด้วยป้าย "รถนักเรียน"

ระดับที่ 2 การขับเคลื่อนเชิงพื้นที่ เพื่อเสริมจุดในการจัดการปัญหาหรือจุดเสี่ยงของรถรับ - ส่งนักเรียน โดยขอรับการสนับสนุนการดำเนินการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ร่วมจัดการ

ระดับที่ 3 สร้างแรงจูงใจสู่มาตรฐานใหม่ (Incentives & Standards) สนับสนุนผู้ประกอบการน้ำดีด้วยมาตรการทางภาษีและการสนับสนุนทางการเงิน สำหรับผู้ที่นำรถเข้าสู่ระบบมาตรฐาน พร้อมผลักดัน

"รถนักเรียนต้นแบบ" ที่มาพร้อมความปลอดภัยขั้นสูง เช่น การใช้ที่นั่งเดี่ยว (Individual Seat) เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของเด็กนักเรียน

อธิบดี ขบ. กล่าวต่อว่า ความร่วมมือในวันนี้ คือก้าวสำคัญที่จะเปลี่ยนผ่านจากระบบเดิมไปสู่มาตรฐานใหม่ที่ยั่งยืน ไม่ใช่แค่การบังคับใช้กฎหมาย แต่มองไปถึงการสนับสนุนผู้ประกอบการและการสร้างรากฐานที่มั่นคง เพื่อให้มั่นใจว่าทุกการเดินทางของนักเรียนไทย จะเต็มไปด้วยความปลอดภัย และเป็นเส้นทางสู่อนาคตที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง