saturday analysis: "ดร.กิตติ"กับข้อเสนอเก็บตกจากเวทีเปิดตัว "แคนดิเดตนายกพรรคเพื่อไทย

"ไม่มีการแตะการเปลี่ยนโครงสร้างการแบ่งปันผลได้ของการพัฒนา !!!

จึงเป็นการเน้น trickling down effect การรอคอยของคนด้อยโอกาส และแรงงานต่อผลของการพัฒนา ที่เน้นให้มีการสะสมทุนให้เต็ม ศักยภาพ แล้วจึงคิดว่าสัดส่วน ระหว่างผลตอบแทน ต่อการพัฒนาจะแบ่งให้แรงงานในสัดส่วนที่เหมาะ สมเท่าใด เพื่อวางรากฐานของเศรษฐกิจ ระยะยาว (Growth with Equity) "

ดร.กิตติ ลิ่มสกุล นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ส่งบันทึกความห่วงใยถึงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยที่เพ่งเปิดตัวเมื่อต้นสัปดาห์(16ธันวาคม2568)ไว้น่าสนใจ!!!!!ลองติดตาม

"เรียน ท่านว่าที่นายกรัฐมนตรี

ข้อเสนอ ต่อแคนดิเดตคนที่1 ศ.ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์

-ดูดี มีคุณภาพในฐานะว่าที่นายกที่ใสบริสุทธิ์

-.เสนอทางออกของประเทศ แก้ปัญหาจากด้านอุปทานในระดับจุลเศรษฐศาสตร์ ด้วยการเพิ่ม ประสิทธิภาพการผลิตที่นำไปสู่การเพิ่มรายได้ให้ทุนและแรงงาน ด้วยการลงทุนทางเทคโนโลยี ทั้งAI และ Biotechnology ให้เกษตร สร้างระบบลอจิสติกส์ แต่ไม่มีอุตสาหกรรมเป้าหมายที่เป็น Strategic Industry ที่สร้างรายได้ในอนาคตที่ชัดเจน นอกจากที่ท่านเสนอเรื่องเทคโนโลยี ด้านการฟื้นร่างกาย และ สุขภาพที่มีผลทางนโยบาย ซึ่งดีมาก แต่ไม่น่าจะพอ

- ไม่มีการแตะการเปลี่ยนโครงสร้างการแบ่งปัน ผลได้ของการพัฒนา จึงเป็นการเน้น trickling down effect การรอคอยของคนด้อยโอกาส และแรงงานต่อผลของการพัฒนา ที่เน้นให้มีการสะสมทุนให้เต็ม ศักยภาพ แล้วจึงคิดว่าสัดส่วน ระหว่างผลตอบแทน ต่อการพัฒนาจะแบ่งให้แรงงานในสัดส่วนที่เหมาะ สมเท่าใด เพื่อวางรากฐานของเศรษฐกิจ ระยะยาว

(Growth with Equity)

ข้อเสนอต่อ แคนดิเดตคนที่ 2 จุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์

- ไม่มีนโยบายการจัดการเศรษฐกิจมหภาค การบริโภค การลงทุน การออม การค้าระหว่างประเทศ การจัดการดุลยภาพภายใน การออม การลงทุน เงินเฟ้อ/ฝืด การจัดการ ดุลยภาพภายนอก อัตราแลกเปลี่ยน เงินทุนไหลเข้า ออกสุทธิระยะเฉพาะหน้า เพื่อช้อนการถดถอยของวัฐจักรธุรกิจของเศรษฐกิจมหภาค การเติบโต ระยะกลาง และ ระยะยาว (long term Growth with Equity)

ระบบการเงิน ท่านจุลพันธุ์ไม่ได้แตะเรื่องดอกเบี้ยนโยบาย การกำกับสถาบันการเงิน และ นโยบาย เศรษฐกิจ การเงิน โดยคณะกรรมการการเงินกนง. และ ระบบทุนสำรองที่เป็นปัญหาหลัก ของการบริหาร จัดการของคลัง/ธปท กนง …

ที่ผ่านมาและ ยังไม่มีการจัดการที่ชัดเจน ?

จนทำให้ดอกเบี้ยแท้จริง (Real effective interest rates) สูง จนเป็นอุปสรรคต่อการลงทุน การเกิด การกู้ยืมนอกระบบ ที่ท่านกล่าวถึงผลแต่ไม่ ได้กล่าวถึงเหตุที่มา ?

ว่าที่ นรม. จุลพันธุ์ เน้นการแก้หนี้นอกระบบ แต่มิได้กล่าวถึงการกำกับระบบสถาบันการเงิน ให้ลดกำไร ส่วนเกิน (NIM) และหาช่องทางปล่อยสินเชื่อให้เอสเอมอี

ท่านว่าที่นรม จุลพันธุ์ กล่าวการยกหนี้ ลดหนี้ การให้แรงจูงใจ การเป็นลูกค้าที่ดีที่พยายามไม่เป็นบัญชี ค้างชำระ และสงสัยจะสูญ แต่มิได้กล่าวถึงการได้มาซึ่งเงินทุนที่จะอุ้มหนี้ครัวเรือน และ เอสเอมอี

รายรับภาษี อัตราภาษีที่เหมาะสม ตลอดจนการลดภาระหนี้สาธารณะ หรือไม่เพิ่มกว่าระดับที่ร้อยละ 70 จะทำเช่นใด ?

รายรับของเกษตรกร เอสเอมอี บริษัทขนาด กลาง ใหญ่ และต่างประเทศจะสร้างเพิ่มอย่างไร โดยไม่ใช้ งบประมาณอุดหนุน?

การปรับโครงสร้างทางการคลัง ระยะกลาง ยาว จะดำเนินการอย่างไร ด้านรายจ่าย เหมือนที่ รมว. คลังเอกนิติ ตีกลองดัง แต่ไม่แน่ใจว่า มีผลจริง หรือไม่?

อยากเห็นท่านจุลพันธุ์เสนอ นโยบายศก. มหภาคภายใน และการเงินระหว่างประเทศ และการสร้างความสามารถในการแข่งขันด้วยครับ

ข้อเสนอต่อแคนดิเดตว่าที่ นรม. สุริยะ

-ทำงานจบ และเกิดผลดีต่อปชช แต่ท่านคงต้องวางแผนให้ชัดว่า ประเทศจะมีแต่การสร้าง โครงสร้าง ในเขต กทม. เท่า นั้น ?

สำหรับการวางแผนการพัฒนาเมืองในภูมิภาค ท้องถิ่น เป้าหมายมีหรือไม่ มีต้นทุน ผลได้ เท่าใด จะเอา ทุนมาจากใหนในรูปแบบการลงทุนอย่างไร ระดมทุน อย่างไร ( Government Investment Funds)

ท่านทำเรื่อง LB สะพานเศรษฐกิจ ภายใต้ SEC ระเบียงเศรษฐกิจ ภาคใต้ต่อหรือไม่ อย่างไร?

- ถ้าถนน สะพาน รถไฟ สร้างมากเกินในกทม /ตจว ใครจะใช้บริการ และความคุ้มค่า ?

ผลต่อสิ่งแวดล้อม แผนสร้าง โครงสร้างพื้นฐานจะมาพร้อมการลงทุน ด้านคน (Human capital investment) อย่างไรที่ว่าที่นรม ยศชนัน เสนอ ?

บทสรุป

1. อะไรคือ โครงการยุทธศาสตร์ ที่ดึงไทยให้พ้นจากกับดักรายได้กลาง ทำไมไม่มีโครงการใหม่ ๆ เช่น การผลักดันเทคโนโลยีอวกาศ Geo Informatics Sciences and Tecnology ให้เป็น S Curve และ สร้าง Supply Chain and Forward-Backward Linkages

การทำให้ Biotechnology ให้ถึงฝันตามที่ท่านยศชนันเสนอ ผมสนับสนุนยิ่ง!!!!

2. ท่านยศชนัน ที่ดูเหมือนเชื่อในการสร้าง Productivity for Growth with Efficiency โดยไม่คิด เรื่องการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ (ภาษี และ อุดหนุน) เพื่อเป็น Growth with Equity (จุลพันธุ์) อาจจะไม่สามารถพาไทยออกจากกับดักรายได้กลางได้จริงนะครับ?

3. การผจญกับ Risk and Uncertainty จากโลกร้อน และภูมิรัฐศาสตร์ ท่านว่าที่ทั้งสามไม่ได้กล่าวถึง มากนัก ? มันคือ อุปสรรคสำคัญที่ต้องวางแผนเตรียมพร้อม

ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม เหมือนยุคท่านทักษิณนะครับ อยากให้เพิ่มเรื่องการจัดการความเสี่ยง และ การหาวิธีลดความสูญเสีย จากความไม่แน่นอนที่มาจากโลกร้อน (Adaptation and Mitigation) และ การเมืองในภูมิภาคที่เป็น New Normal

4. ท่านว่าที่นายก คงต้องสุมหัวกับคนในพรรคเพื่อวางนโยบายให้ละเอียด จับต้องได้ ให้ราชการ นำไป ปฏิบัติการได้จริง

ดร กิตติ ลิ่มสกุล

อดีตผู้ร่วมก่อตั้งพรรคไทยรักไทย