Showfields ห้างดังจากนิวยอร์กที่มีรูปแบบเป็น “ห้างสรรพสินค้าที่ไม่ขายสินค้า” จะเปิดให้บริการที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในฤดูร้อนนี้ (ราวเดือนกรกฎาคมหรือสิงหาคม) โดยห้างดังกล่าวไม่ได้มีไว้สำหรับขายสินค้า แต่ให้บริการลูกค้าสามารถมาทดลองใช้สินค้าต่างๆ ปัจจุบันห้างสรรพสินค้าในประเทศสหรัฐอเมริกาจำนวนไม่น้อยต่างพากันปิดตัวลงเนื่องจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 แต่ห้างที่ไม่ขายสินค้านี้กลับเติบโตขึ้นอ่างรวดเร็ว เพราะความสนใจของผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยนจากการไปซื้อของที่ร้านค้า เป็นการซื้อผ่านอินเตอร์เน็ตหรือช้อปปิ้งออนไลน์มากขึ้น
สำหรับห้าง Showfields ที่จะมาเปิดที่ญี่ปุ่นนั้น ขณะนี้กำลังมองหาทำเลขนาดเล็ก พื้นที่ประมาณ 150-300 ตารางเมตร ในกรุงโตเกียว เช่นย่าน Shinjuku Omotesando และ Ginza โดยจะทดลองเปิดให้บริการประมาณครึ่งปี หลังจากนั้นจะขยับขยายห้างให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 1,200 ตารางเมตรเท่ากับในสหรัฐอเมริกา และวางแผนจะขยายสาขาในญี่ปุ่นให้ได้มากกว่า 10 สาขา
สำหรับสินค้าต่างๆ ที่จะมาลงในห้างนั้นเป็นสินค้าที่วางขายเหมือนในห้างทั่วไป โดยเน้นที่เสื้อผ้าและเครื่องสำอางจาก 20 แบรนด์ดังที่ขายออนไลน์แบบ D2C (Direct to Consumer) เท่านั้น เพื่อให้ลูกค้าสามารถมาทดลองสินค้าที่หลากหลายเพียงแค่แวะมาที่ห้างนี้ที่เดียว ทั้งนี้ รายได้ของห้างที่ไม่ขายสินค้าจะมาจากค่าเช่าที่และการให้บริการข้อมูล นอกจากนี้ ในห้าง Showfields จะมีการติดตั้งกล้อง AI จำนวนมาก เพื่อวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวของลูกค้า โดยคำนวณเวลาที่ลูกค้ายืนอยู่หน้าสินค้านั้น แปรออกมาข้อมูล (data) ค่าความสนใจของสินค้า ซึ่งแต่ละแบรนด์สินค้าสามารถนำข้อมูลต่างๆ ไปใช้ในการพัฒนาสินค้าของตนเองได้
จากข้อมูลของ Ministry of Internal Affairs and Communications ระบุว่า ในปี 2564 จำนวนครัวเรือนในประเทศญี่ปุ่นที่ใช้บริการซื้อสินค้าทางออนไลน์มีจำนวนเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาถึง 3 เท่า โดยตัวเลขของเดือนพฤศจิกายน 2564 พบว่า ครัวเรือนที่มีการช้อปปิ้งออนไลน์มีสัดส่วนมากถึง 45 % ดังนั้นห้างสรรพสินค้าของญี่ปุ่นหลายแห่ง เช่น ห้าง ในเครือไดมารู และ Matsuya จึงเริ่มให้ความสำคัญกับธุรกิจออนไลน์และปรับเปลี่ยนรูปแบบห้างเป็น real and digital
ที่มา. “Showfields” ห้างรูปแบบใหม่ที่ไม่ขายของกำลังจะเปิดบริการที่ญี่ปุ่น โดย ... ชุติมา อุชิดะ
Comments