top of page

ตามดูไส้ในโครงการ(Upskill)-(Reskill) ที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อยกระดับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส

  • รูปภาพนักเขียน: Close Up Thailand
    Close Up Thailand
  • 12 นาทีที่ผ่านมา
  • ยาว 4 นาที
ree

เริ่มแล้ว ! “Upskill – Reskill ร้านค้าคนละครึ่ง พลัส” รับเงินสูงสุด 2,000 บาท ถึง 19 ธ.ค. 68


.ครม. (18 พ.ย.68) มีมติเห็นชอบโครงการพัฒนาความรู้ทักษะ (Upskill) หรือเรียนรู้ทักษะใหม่ (Reskill) สำหรับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส พร้อมอนุมัติงบกลางปี 69 จำนวนไม่เกิน 800 ล้านบาท ให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ดำเนินโครงการฯ ร่วมกับธนาคารออมสินและกรมพัฒนาธุรกิจการค้า.


ร้านค้าในโครงการฯ สามารถเลือกพัฒนาทักษะ ระหว่างวันที่ 19 พ.ย. – 19 ธ.ค. 68 โดยเข้าร่วมอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง ดังนี้


1 เข้าร่วมเป็นร้านค้าบนแพลตฟอร์ม Food Delivery


2 เข้าร่วมอบรมออนไลน์ของธนาคารออมสิน


3 เข้าร่วมอบรมออนไลน์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า.


ร้านค้าที่ผ่านเกณฑ์ไม่เกิน 400,000 ร้านค้าแรก จะได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐ 20% ของยอดขายจากโครงการคนละครึ่ง พลัส เฉพาะในส่วนที่ภาครัฐร่วมจ่าย สูงสุดไม่เกิน 2,000 บาทต่อร้าน โดยกระทรวงการคลังจะโอนเงินเข้าบัญชีกรุงไทยที่ผูกกับแอปฯ “ถุงเงิน” ในวันที่ 25 ธ.ค. 68


นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติ ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ ดังนี้


1.เห็นชอบโครงการพัฒนาความรู้ทักษะ (Upskill) หรือเรียนรู้ทักษะใหม่ (Reskill) สำหรับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส และกรอบวงเงินงบประมาณจำนวนไม่เกิน 800 ล้านบาท โดยมอบหมายให้กระทรวงการคลัง โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขรายละเอียดที่ไม่ขัดกับหลักการโครงการฯ และหลักการโครงการคนละครึ่ง พลัส เพื่อให้การดำเนินโครงการฯ และโครงการคนละครึ่ง พลัส เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเกิดประสิทธิภาพ2. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวนไม่เกิน 800 ล้านบาท โดยจัดสรรให้แก่ สศค. สำหรับการดำเนินโครงการฯ3.มอบหมายธนาคารออมสินและกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโครงการฯ

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า โครงการฯ เป็นการต่อยอดโครงการคนละครึ่ง พลัส เพื่อกระตุ้นและจูงใจให้ร้านค้าพัฒนาธุรกิจของตนเอง ผ่านการเรียนรู้ทักษะที่จำเป็น ร้านค้า โดยมีรายละเอียดโครงการฯ ดังนี้

1. ระยะเวลาการพัฒนาทักษะ: ตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2568

2. กลุ่มเป้าหมาย: ร้านค้าในโครงการคนละครึ่ง พลัส จำนวนไม่เกิน 400,000 ร้านค้า

3. คุณสมบัติของร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ:3.1 เป็นร้านค้าในโครงการคนละครึ่ง พลัส ในวันก่อนเริ่มดำเนินการพัฒนาทักษะ3.2 ได้ตกลงให้ความยินยอม (Consent) ตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และข้อตกลงเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของโครงการฯ ก่อนดำเนินการพัฒนาทักษะ3.3 เข้าร่วมการพัฒนาทักษะโดยใช้เลขประจำตัวประชาชน (กรณีบุคคลธรรมดา) หรือเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (กรณีนิติบุคคล) ที่ตรงกับการลงทะเบียนร้านค้าในโครงการคนละครึ่ง พลัส เท่านั้น3.4 ไม่เป็นผู้ประกอบการด้านขนส่งมวลชนสาธารณะในโครงการคนละครึ่ง พลัส3.5 ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในโครงการของรัฐ ได้แก่ โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 1 - 5 และโครงการคนละครึ่ง พลัสทั้งนี้ หากตรวจสอบพบในภายหลังว่า ร้านค้ามีการกระทำผิดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขโครงการของรัฐข้างต้น จะถูกตัดสิทธิจากโครงการฯ

4. วิธีดำเนินการ: ร้านค้าในโครงการคนละครึ่ง พลัส สามารถเลือกเข้าร่วมการพัฒนาทักษะระหว่างวันที่ 19 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2568 อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง ดังต่อไปนี้4.1 เข้าร่วมเป็นร้านค้าบนแพลตฟอร์มของผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหาร (Food Delivery Platform) 4.2 เข้าร่วมและผ่านเกณฑ์การอบรมออนไลน์ของธนาคารออมสิน 4.3 เข้าร่วมและผ่านเกณฑ์การอบรมออนไลน์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์

5. สิทธิประโยชน์: ร้านค้าที่ผ่านหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการพัฒนาทักษะจำนวนไม่เกิน 400,000 ร้านค้าแรก จะได้รับสิทธิเงินสนับสนุนจากภาครัฐ ร้อยละ 20 ของยอดขายที่เกิดจากโครงการคนละครึ่ง พลัส เฉพาะในส่วนที่ภาครัฐร่วมจ่าย นับตั้งแต่วันที่ร้านค้าได้ดำเนินการพัฒนาทักษะสำเร็จ จนถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2568 ทั้งนี้ สูงสุดไม่เกิน 2,000 บาทต่อร้านค้า โดยกระทรวงการคลังจะโอนเงินสนับสนุนให้แก่ร้านค้าผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ที่ผูกกับแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ในวันที่ 25 ธันวาคม 2568


ที่นี้ลองมาเจาะใส้ในว่า โครงการพัฒนาความรู้ทักษะ (Upskill) หรือเรียนรู้ทักษะใหม่ (Reskill) สำหรับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส ลึกๆ ต้องการเห็นอะไร???ตามกันมาเล้ยยยย


                                คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อ 18 พฤศจิกายน2568 เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ ดังนี้

                                1.เห็นชอบโครงการที และกรอบวงเงินงบประมาณจำนวนไม่เกิน 800 ล้านบาท โดยมอบหมายกระทรวงการคลังโดย สศค. กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในรายละเอียด ที่ไม่ขัดกับหลักการโครงการๆ และหลักการโครงการคนละครึ่ง พลัส เพื่อให้การดำเนินโครงการฯ และโครงการคนละครึ่ง พลัส เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเกิดประสิทธิภาพ

                                2. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวนไม่เกิน 800 ล้านบาท โดยจัดสรรให้แก่ สศค. สำหรับการดำเนินโครงการฯ

                                3. มอบหมายธนาคารออมสินและกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโครงการฯ

                                สาระสำคัญของเรื่อง

                                1. คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2568 อนุมัติโครงการคนละครึ่ง พลัส และให้กระทรวงการคลังโดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เป็นหน่วยงานดำเนินโครงการคนละครึ่ง พลัสภายในกรอบวงเงิน 44,000 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจนถึงระดับฐานราก โดยภาครัฐให้การสนับสนุนเงินร่วมจ่ายค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าและบริการที่กำหนด ให้แก่ประชาชนผู้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส เพื่อเพิ่มอุปสงค์การบริโภคภายในประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ประกอบการรายย่อยทุกระดับมีรายได้จากการขายสินค้าและให้บริการและเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของประชาชน

                                ทั้งนี้ ภาครัฐอาจมีการกำหนดเงื่อนไขให้ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส

มีการพัฒนาความรู้ทักษะ (Upskill) หรือเรียนรู้ทักษะใหม่ (Reskill) ในด้านความรู้ทางด้านการเงิน (Financial Literacy) หรือความรู้ทางด้านดิจิทัล (Digital Literacy) ผ่านแพลตฟอร์มหรือช่องทางที่กำหนด ซึ่งร้านค้าที่ดำเนินการสำเร็จอาจจะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมเพื่อเป็นแรงจูงใจสำหรับการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส ในอนาคต

                                2. ในคราวการประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ (คณะกรรมการฯ) ครั้งที่ 4/2568 เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 คณะกรรมการฯ ได้มีมติเห็นชอบ ดังนี้

                                                2.1 เห็นชอบหลักการการดำเนินโครงการฯ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ ในส่วนของวิธีดำเนินการ เห็นควรให้ร้านค้าในโครงการคนละครึ่ง พลัส สามารถเลือกเข้าร่วมวิธีการ =Upskill หรือ Reskill ได้ 3 ช่องทาง ได้แก่ (1) เข้าร่วมเป็นร้านค้าบน Food Delivery Platform (2) เข้าร่วมและผ่านเกณฑ์การอบรมออนไลน์ของธนาคารออมสิน (3) เข้าร่วมและผ่านเกณฑ์การอบรมออนไลน์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โดยร้านค้าที่ผ่านหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการ Upskill หรือ Reskill อย่างใดอย่างหนึ่งข้างต้น จำนวนไม่เกิน 400,000 ร้านค้าแรก จะได้รับสิทธิเงินสนับสนุนจากภาครัฐ ร้อยละ20 ของยอดขายที่เกิดจากโครงการคนละครึ่ง พลัส เฉพาะในส่วนที่ภาครัฐร่วมจ่ายนับตั้งแต่วันที่ร้านค้าได้ดำเนินการ Upskill หรือ Reskill สำเร็จ จนถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2568 ทั้งนี้ สูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท ต่อร้านค้า

                                                นอกเหนือจากการ Upskill หรือ Reskill ใน 3 ช่องทางที่ร้านค้าจะได้รับเงินสนับสนุนจากภาครัฐแล้ว กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมยังให้การสนับสนุนเพิ่มเติมแก่ร้านค้าโดยร้านค้าสามารถเข้าร่วมและทดลองใช้งานสินค้าและบริการในบัญชีบริการดิจิทัลของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) ตามหมวดสินค้าและบริการที่กำหนดได้ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 6 เดือน

                                                2.2 มอบหมายให้กระทรวงการคลังนำเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

                                สาระสำคัญ

                                กระทรวงการคลังเสนอแนวทางการดำเนินโครงการฯ อันเป็นการต่อยอดโครงการคนละครึ่ง พลัส ดังนี้

                                1. หลักการและเหตุผล: ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส มีลักษณะเป็น

ร้านค้าขนาดเล็กซึ่งมีศักยภาพที่จะเติบโตแต่ยังมีองค์ความรู้หรือทักษะไม่เพียงพอ จึงมีความจำเป็นต้องได้รับการ Upskill หรือ Reskill นำไปสู่การยกระดับศักยภาพของร้านค้าซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจไทยให้เกิดขึ้นได้อย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพต่อไป

                                2. วัตถุประสงค์: เพื่อเร่งสร้างกระบวนการและแรงจูงใจให้แก่ร้านค้าในโครงการคนละครึ่ง พลัส ให้สามารถเข้าถึงการ Upskill หรือ Reskill อย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยกระทรวงการคลังจะกำหนดเงื่อนไขให้ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส มีการ Upskill หรือ Reskill ผ่านแพลตฟอร์มหรือช่องทางที่กำหนด ซึ่งร้านค้าที่ดำเนินการสำเร็จจะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมเพื่อเป็นแรงจูงใจในการพัฒนาทักษะดังกล่าว ทั้งนี้ ไม่เกินจำนวนสิทธิที่กำหนด

                                3. ระยะเวลาดำเนินการ: ตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 25 ธันวาคม 2568

                                4. กลุ่มเป้าหมาย: ร้านค้าในโครงการคนละครึ่ง พลัส จำนวนไม่เกิน 400,000 ราย

                                5. คุณสมบัติของร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ:

                                                                5.1 เป็นร้านค้าในโครงการคนละครึ่ง พลัส ในวันก่อนเริ่มดำเนินการ Upskill หรือ Reskill

                                                                5.2 ได้ตกลงให้ความยินยอม (Consent) ตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และข้อตกลงเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของโครงการฯ ก่อนดำเนินการ Upskill หรือ Reskill

                                                                5.3 เข้าร่วมการ Upskill หรือ Reskill โดยใช้เลขประจำตัวประชาชน(กรณีบุคคลธรรมดา) หรือเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (กรณีนิติบุคคล) ที่ตรงกับการลงทะเบียนร้านค้าในโครงการคนละครึ่ง พลัส เท่านั้น

                                                                5.4 ร้านค้าในโครงการคนละครึ่ง พลัส ประเภทร้านอาหารและเครื่องดื่มที่เลือก Upskill หรือ Reskill กับ Food Delivery Platform รายใด จะต้องไม่เป็นร้านค้าที่อยู่ในฐานข้อมูลของ Food Delivery Platform รายดังกล่าวนั้น ณ วันที่ 18 พฤศจิกายน 2568

                                                5.5 ไม่เป็นผู้ประกอบการด้านขนส่งมวลชนสาธารณะในโครงการคนละครึ่ง พลัส                                      

5.6 ไม่เป็นผู้ที่ถูก สศค. ระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในโครงการของรัฐ ได้แก่(1) โครงการคนละครึ่ง (2) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 (3) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 (4) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 (5) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 และ (6) โครงการคนละครึ่ง พลัส

                                ทั้งนี้ หากตรวจสอบพบในภายหลังว่า ร้านค้ามีการกระทำผิดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขโครงการของรัฐข้างต้น จะถูกตัดสิทธิจากโครงการฯ

             

                   6. วิธีดำเนินการ:

                                                6.1 ร้านค้าในโครงการคนละครึ่ง พลัส สามารถเลือกเข้าร่วมการ Upskill หรือ Reskill ระหว่างวันที่ 19 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2568 อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง ดังต่อไปนี้

                                                                (1) เข้าร่วมเป็นร้านค้าบน Food Delivery Platform

มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ร้านอาหารและเครื่องดื่มในโครงการคนละครึ่ง พลัส สามารถขยายช่องทางการจำหน่าย เพิ่มฐานลูกค้า และเพิ่มรายได้ ผ่านการเข้าร่วมเป็นร้านค้าบน Food Delivery Platform ที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส รายใดรายหนึ่ง ได้แก่ Grab Lineman Robinhood และ ShopeeFood ทั้งนี้ ร้านค้าในโครงการคนละครึ่ง พลัส ประเภทร้านอาหารและเครื่องดื่มจะต้องลงทะเบียนเข้าร่วม Food Delivery Platform รายใดรายหนึ่งบนแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ระหว่างวันที่ 19 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2568 โดยมีผลการลงทะเบียนสำเร็จ และจะต้องไม่สมัครเข้าร่วม เป็นร้านค้าของ Food Delivery Platiom รายนั้น ก่อนวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 ตามฐานข้อมูล ณ วันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 นอกจากนี้ ร้านค้าต้องมีคำสั่งซื้อที่ใช้สิทธิผ่านโครงการคนละครึ่ง พลัส อย่างน้อย 5 รายการ ภายในวันที่ 19 ธันวาคม 2568 จึงจะถือว่า ได้ดำเนินการ Upskill หรือ Reskill สำเร็จ

                                                                (2) เข้าร่วมและผ่านเกณฑ์การอบรมออนไลน์ของธนาคารออมสิน

                                                                มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้ทางการเงิน เช่น การจัดทำบัญชีรายรับรายจ่าย การประกอบธุรกิจที่เข้าถึงได้ง่าย เทคนิคการตั้งราคาขาย เป็นต้น ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ธนาคารออมสินคัดเลือกแล้วว่า มีความเหมาะสมกับผู้ประกอบการร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัสโดยผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องผ่านการเรียนหลักสูตรตามที่ธนาคารออมสินกำหนด เข้าเรียนครบระยะเวลาหลักสูตร และมีการทำแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนโดยมีผลคะแนนหลังเรียนผ่านเกณฑ์ที่กำหนดและผลคะแนนหลังเรียนต้องสูงกว่าก่อนเรียน จึงจะถือว่า ได้ดำเนินการ Upskill หรือ Reskill สำเร็จ

                                                                (3) เข้าร่วมและผ่านเกณฑ์การอบรมออนไลน์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์

                                                                มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้และทักษะด้านการดำเนินธุรกิจให้ร้านค้าสามารถนำความรู้ไปต่อยอดในการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย และเพิ่มทักษะเทคโนโลยี โดยเรียนผ่านระบบอบรมออนไลน์ DBD Academy (e-Learning) ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ในหลักสูตรที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าคัดเลือกแล้วว่า มีความเหมาะสมกับผู้ประกอบการร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส ทั้งนี้ ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องเลือกเรียนอย่างน้อย 1 หลักสูตร เข้าเรียนครบระยะเวลาหลักสูตร และมีการทำแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนโดยมีผลคะแนนหลังเรียนผ่านเกณฑ์ที่กำหนดและผลคะแนนหลังเรียนต้องสูงกว่าก่อนเรียน จึงจะถือว่าได้ดำเนินการ Upskill หรือ Reskill สำเร็จ

                                                6.2 กระทรวงการคลังโดย สศค. จะตรวจสอบคุณสมบัติความเป็นร้านค้าในโครงการคนละครึ่ง พลัส ของผู้ประกอบการร้านค้าที่ธนาคารออมสิน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือผู้ให้บริการ

Food Delivery Platform ได้แจ้งว่าดำเนินการ Upskill หรือ Reskill ตามข้อ 6.1 สำเร็จ และประมวลผลเพื่อให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้ประกอบการร้านค้าที่มีคุณสมบัติครบถ้วน จำนวนไม่เกิน 400,000 สิทธิโดยจะให้สิทธิแก่ผู้ประกอบการร้านค้าตามลำดับวันและเวลาที่ธนาคารออมสิน กรมพัฒนาธุรกิจการค้าหรือผู้ให้บริการ Food Delivery Platform ได้แจ้งว่าดำเนินการ Upskill หรือ Reskill สำเร็จ ซึ่งจะประกาศผลผู้ประกอบการร้านค้าที่ได้รับสิทธิในวันที่ 23 ธันวาคม 2568 ผ่านข้อความบนแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” และข้อความสั้น (Short Message Service: SMS)



                          7. สิทธิประโยชน์:

ร้านค้าที่ผ่านหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการ Upskill หรือ Reskill อย่างใดอย่างหนึ่งในข้อ 6 จำนวนไม่เกิน 400,000 ร้านค้าแรก จะได้รับสิทธิเงินสนับสนุนจากภาครัฐ ร้อยละ20 ของยอดชายที่เกิดจากโครงการคนละครึ่ง พลัส เฉพาะในส่วนที่ภาครัฐร่วมจ่าย นับตั้งแต่วันที่ร้านค้าได้ดำเนินการ Upskill หรือ Reskill สำเร็จ จนถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2568 ทั้งนี้ สูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท ต่อร้านค้า โดยกระทรวงการคลัง โดยกรมบัญชีกลาง จะโอนเงินดังกล่าวให้แก่ร้านค้าผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ที่ผูกกับแอปพลิเคชัน

“ถุงเงิน” ในวันที่ 25 ธันวาคม 2568

                                สำหรับกรณีโอนเงินไม่สำเร็จจะดำเนินการติดตามเพื่อโอนเงิน (Retry) ให้แก่ร้านค้าในวันที่30 มกราคม 2569 และในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2569 โดยเมื่อพ้นกำหนดดังกล่าว รัฐจะไม่โอนเงินให้แก่ร้านค้า และถือว่า ร้านค้าไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการฯ

                                ทั้งนี้ หลักเกณฑ์และเงื่อนไขโครงการฯ ซึ่งรวมถึงการได้รับสิทธิประโยชน์ของโครงการฯให้เป็นไปตามที่กระทรวงการคลังโดย สศค. กำหนด

                                ประโยชน์และผลกระทบ

                                การดำเนินโครงการฯ จะช่วยให้ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส สามารถพัฒนาธุรกิจที่สอดคล้องกับลักษณะของการประกอบการของตนผ่านการเรียนรู้ทักษะต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน Financial Literacy และ Digital Literacy เช่น การจัดทำบัญชี การเริ่มต้นธุรกิจ การตลาดยุคดิจิทัลการส่งเสริมการขายหรือขยายช่องทางการจำหน่าย การประยุกต์ใช้ AI เป็นต้น นำไปสู่การยกระดับศักยภาพของร้านค้าซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจไทยให้เกิดขึ้นได้อย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพต่อไป

                                การดำเนินการที่ผ่านมา

                                กระทรวงการคลัง โดย สศค. รายงานความคืบหน้าการดำเนินโครงการคนละครึ่ง พลัสณ วันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 สรุปได้ ดังนี้

                                1. จำนวนร้านค้า: มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส ที่ผ่าน

การตรวจสอบข้อมูลแล้วทั้งสิ้น 893,196 ราย ในจำนวนนี้ มีร้านค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่มที่ลงทะเบียน กับผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหาร (Food Delivery Platform) ซึ่งประกอบด้วย (1) บริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จำกัด (Grab) (2) บริษัท ไลน์แมน (ประเทศไทย) จำกัด (Lineman) (3) บริษัท เพอร์เพิลเวนเจอร์ส จำกัด (Robinhood) และ (4) บริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด (ShopeeFood) สำเร็จแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 70,456 ราย คิดเป็นร้อยละ 7.89 ของร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส

                                2. จำนวนประชาชน: มีประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส ครบจำนวน 20 ล้านราย เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2568 โดยประกอบด้วย

                                                2.1 ประชาชนผู้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (แบบ ภ.ง.ด. 90 แบบ ภ.ง.ด. 91 และแบบ ภ.ง.ค. 95) ของปีภาษี 2567 ตามฐานข้อมูลของกรมสรรพากร ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 ซึ่งได้รับวงเงินสิทธิ 2,400 บาท จำนวน 7,928,858 ราย

                                                2.2 ประชาชนทั่วไป ซึ่งได้รับวงเงินสิทธิ 2,000 บาท จำนวน 12,071,142 ราย

                                3. การใช้จ่าย: มีผู้ใช้จ่ายในโครงการคนละครึ่ง พลัส จำนวน 19.68 ล้านรายยอดใช้จ่ายรวม ณ วันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 จำนวน 29,683.80 ล้านบาท ประกอบด้วยการใช้จ่ายส่วนของประชาชน 15,035.30 ล้านบาท (ร้อยละ 50.65) และเงินร่วมจ่ายของรัฐ 14,648.50 ล้านบาท (ร้อยละ 49.35) ทั้งนี้ ได้ใช้จ่ายกับร้านค้าทั้งสิ้น 822,775 ราย

                                4. วงเงินงบประมาณ: กระทรวงการคลัง โดย สศค. ได้รับจัดสรรงบประมาณในการดำเนินโครงการคนละครึ่ง พลัส จากสำนักงบประมาณแล้วเป็นจำนวน 44,000 ล้านบาท ประกอบด้วย

(1) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ จำนวน 25,000 ล้านบาท และ (2) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 19,000 ล้านบาท

                                ทั้งนี้ เมื่อคำนวณวงเงินสิทธิของประชาชนกลุ่มที่ได้รับวงเงินสิทธิ 2,400 บาทและกลุ่มที่ได้รับวงเงินสิทธิจำนวน 2,000 บาท ตามข้อ 2 จะมีวงเงินที่ภาครัฐต้องร่วมจ่ายในโครงการคนละครึ่ง พลัส เป็นจำนวนทั้งสิ้นไม่เกิน 43,171,543,200 บาท

 

 

 
 
 

ความคิดเห็น


ดาวน์โหลด (1).png

เพื่อให้ทุกท่านสามารถติดตามประเด็นวิเคราะห์เจาะลึกผ่านทาง CLOSE-UP THAILAND เชิญเพิ่มเพื่อนทางไลน์ @closeupthailand

bottom of page