top of page

"สายเหนียว ต้องหนู กันภัย สายอนามัย ต้องหนู กัญชา"


"อนุทิน ชาญวีรกุล"รมว.สาธารณสุข กับความพยายามผลักดันให้กัญชาได้รับการใช่้ประโยชน์อย่างไม่มีความผิดทางกฎหมาย แม้หลายฝ่ายโดยเฉพาะผู้นำรัฐบาลจะแสดงท่าทีหลายครั้งว่า ไม่เห็นด้วย เพราะยังมองเป็นเรื่องของยาเสพติด และใช้เฉพาะในวงแคบๆ


ลองติดตามจากการโพสต์ผ่านเฟสบุกส์ในหลายครั้งของเขา กับความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น!!!


"การตอบกระทู้สดในสภาวันนี้ ผมต้องขอเอ่ยชื่อคุณแอ๊ด คาราบาว เพราะเป็นคนหนึ่งที่สนับสนุนแนวทางการใช้ประโยชน์จากกัญชาเพื่อการแพทย์

และได้แต่งเพลงให้ด้วย สังคมเข้าใจประโยชน์ของกัญชา เพลงของท่านก็มีส่วน

ช่วงหนึ่ง ในเนื้อบอกว่า ทั้งราก ต้น ใบ ดอก กัญชา นำมาทำเป็นยาสมุนไพร นี้คือเรื่องของยา

ปรุงรส แกงเนื้อ แกงไก่ แทนผงชูรส เจริญอาหาร อันนี้ เป็นเรื่องของชาวบ้าน

ถ้าเรื่องของแพทย์ หากมีโรคภัย ไข้เจ็บ ใช้ กัญชารักษาจนหายขาด

ถ้าเรื่องของประเทศ ไทยแลนด์ถูกจารึกในประวัติศาสตร์ ว่าเป็นชาติ ที่ใช้กัญชาอย่างเข้าใจ

ถ้าเรื่องของคนสนับสนุน ท่านกล่าวว่า สายเหนียว ต้องหนู กันภัย สายอนามัย ต้องหนู กัญชา

ขอย้ำ

ผมจะทำให้กัญชา กัญชง เกิดประโยชน์ กับคนไทย จะไม่ปล่อยให้เอามาใช้ในทางทำให้เกิดโทษ เราจะทำให้กัญชา เป็นทางเลือกด้านการแพทย์ และเศรษฐกิจ สำหรับคนไทย""



ปลูกกัญชาในครัวเรือน จดแจ้ง "ฟรี" ระบุชัดในร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง


ตอนนี้ มีความเข้าใจสับสนว่า ร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ที่อยู่ในสภา กำหนดให้การปลูกในครัวเรือน ต้องจดแจ้ง เสียค่าธรรมเนียม เป็นหลักหมื่นบาท บ้างก็ว่าไปถึง 5 หมื่นบาท

"แอดมิน" ขอย้ำว่า ตามร่าง พ.ร.บ.ไม่ได้กำหนดให้มีการชำระค่าจดแจ้งแต่ประการใด แต่เป็นการบริการให้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพราะจุดประสงค์ของกฎหมาย สนับสนุนให้ประชาชนใช้พึ่งพาตัวเองอยู่แล้ว

เมื่อกางร่างพระราชบัญญัติ กัญชา กัญชง พศ …. หมวด 4 เขียนไว้ชัด เรื่องการจดแจ้ง และใช้ประโยชน์จากกัญชา กัญชง ในครัวเรือน ที่ระบุว่า

“มาตรา 18 ผู้ใดประสงค์จะเพาะปลูก เพื่อใช้ประโยชน์จากกัญชา กัญชง ในครัวเรือน ต้องจดแจ้งต่อผู้รับจดแจ้ง เพื่อออกใบรับจดแจ้ง จึงจะดำเนินการได้”

ถือเป็นช่องทางให้ประชาชน สามารถปลูกและใช้ ในครัวเรือนได้เสรี ต่างจากแบบเดิมที่ประชาชนบางกลุ่มเท่านั้นที่ปลูกได้ แต่ต้อง มีการขออนุญาต

สิ่งที่กำหนดเรื่องการค่าธรรมเนียมคือกรณีผู้ประสงค์ปลูก ต้องการปลูกเป็นแปลงใหญ่ ในเชิงพาณิชย์ธุรกิจอุตสาหกรรม ปลูกกันเป็นหลักสิบไร่ ร้อยไร่ การสกัด การนำเข้าส่งออก ซึ่งต้องขออนุญาตต้องมีค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาตนั้นๆ

ซึ่งไม่แตกต่างจากกฎหมายอื่นของ อย.เช่น พรบ.อาหาร พรบ.ยา พรบ.วัตถุอันตราย เป็นต้น

แต่ที่ต้องเน้นย้ำคือ การปลูกในครัวเรือน ไม่มีค่าจดแจ้งนะครับ

ร่างกฎหมายฉบับนี้ เมื่อบังคับใช้แล้ว จะเป็นการทลายวงจรผูกขาดกัญชา ดังนั้น กฎหมายจึงเปิดกว้างให้ทุกคนได้ใช้ประโยชน์ครับ



ขอแรงสนับสนุน

วันนี้ มีการถามในสภา เรื่องนโยบายกัญชา ที่ผมผลักดันมาตลอด ตอนนี้ หลังจากบอร์ด ป.ป.ส. เห็นชอบประกาศกระทรวงสาธารณสุข ตัดชื่อกัญชง กัญชง ออกจากยาเสพติด ก็ต้องรอ 120 วัน หลังประกาศในราชกิจจาฯ

ระหว่างนั้น เราจะเข้ามาแก้เรื่องความสับสนในการใช้ประโยชน์ ด้วยการออก พ.ร.บ. กัญชา กัญชง ซึ่งได้ยื่นเข้าสภาไปแล้ว

เนื้อหาหลักคือ

การทำให้เป็นพืชเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม

ปลูกเป็นพืชสมุนไร ใช้พึ่งพาตัวเอง ในครัวเรือน

กำหนดกรอบการใช้สำหรับกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี สตรีมีครรภ์ ฯลฯ

การจดแจ้ง การกำกับดูแล

การใช้ ให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล และกรอบระหว่างประเทศ

แน่นอนว่า เมื่ออกมาแล้ว จะช่วยยุติข้อกังขาทางกฎหมาย จะทำให้กัญชากลายเป็นประโยชน์แก่คนไทยจริงๆ

ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง เข้าสู่สภาแล้ว ก็ขอให้ผู้แทนปวงชนช่วยกันตัดสินใจ เพื่อให้เกิดประโยชน์ ให้กัญชา กลายเป็นทางเลือก ทางรอด ทั้งด้านสุขภาพ และเรื่องปากท้อง กับคนไทย และประเทศไทยต่อไป



ยื่น พ.ร.บ. กัญชา กัญชง

เร่งคืน "โอกาส" ให้ประชาชน

วันนี้ผม และ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมกันลงชื่อเสนอร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ. .... ต่อท่านชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานรัฐสภา เพื่อพิจารณานำเข้าสู่กระบวนการตราเป็นพระราชบัญญัติ เพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป เป็นกระบวนการต่อเนื่องหลังจากที่บอร์ด ป.ป.ส.มีมติเห็นชอบประกาศของปลดกัญชา กัญชง พ้นยาเสพติด เหลือไว้แต่เพียงเรื่องของสารสกัด


เหตุผลที่ต้องมีการเสนอร่างพรบ.กัญชา กัญชง ฉบับนี้ เพราะ ยังคงมีความห่วงใยจากหลายภาคส่วน ทั้งนักวิชาการ ภาคประชาชน และ เจ้าหน้าที่รัฐ เกรงว่าจะมีการนำกัญชาไปใช้ทางที่เป็นโทษต่อประชาชนและเยาวชน จึงจำเป็นต้องมีกฎหมายมาดูแลเรื่องการใช้ให้เกิดประโยชน์ทางการแพทย์ และทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นไปตามตามนโยบายรัฐบาล


พระราชบัญญัติฉบับนี้ จะทำให้ประชาชนเข้าถึงกัญชาได้ง่ายขึ้น ภายใต้กรอบการดูแล เพื่อไม่ให้มีการนำไปใช้ในทางที่ผิด ในร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ได้เปิดช่องให้มีการปลูกกัญชา เพื่อใช้ในครัวเรือน โดยปรากฏในหมวด 4 เรื่องการจดแจ้งและใช้ประโยชน์จากกัญชา กัญชง ในครัวเรือน ที่ระบุว่า มาตรา 16 ผู้ใดประสงคืจะเพาะปลูก เพื่อใช้ประโยชน์จากกัญชา กัญชงในครัวเรือน ต้องจดแจ้งต่อผู้รับจดแจ้ง เพื่ออกใบรับจดแจ้ง จึงจะดำเนินการได้ ซึ่งถือเป็นช่องทางให้ประชาชน สามารถปลูกและใช้ ในครัวเรือนได้สะดวกขึ้น กว่าการขออนุญาตแบบเดิม


ขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกสภาฯ ทุกพรรคการเมือง และ สมาชิกวุฒิสภา ได้ร่วมกันศึกษาพิจารณาร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่พรรคภูมิใจไทย เสนอ เพื่อให้พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ออกมาใช้โดยเร็วที่สุด และ เป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด และขอให้ทุกท่าน ได้ระลึกถึงเจตนารมณ์ของท่านในการตราประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 ที่รัฐสภามีมติเป็นเอกฉันท์ 476 ต่อ 0 ซึ่งมีสาระสำคัญในมาตรา 29 ที่ได้ถอดกัญชาออกจากยาเสพติดให้โทษ ประเภท 5 ไปแล้ว


ทุกนาทีมีค่า เรากำลังเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อให้กัญชา กลับมาเป็นทั้งยา และโอกาสในการทำมาหากินของประชาชน


พรรคภูมิใจไทย ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า เราพูด และเราทำ เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข ของพี่น้องประชาชน



อย่ามองกัญในแง่ร้าย

ระหว่างที่ผมไปตรวจเยี่ยมศูนย์ฉีดวัคซีนที่ MBK ที่ผมต้องขอบคุณเอกชน ที่สละพื้นที่มาบริการคนไทย

ก็มีนักข่าวมาถามความเห็นของผมเรื่องที่ยังมีบางคนกลัวว่า ถ้าคลายล็อกกัญชาสำเร็จ จะมีแต่คนเอาไปใช้เพื่อสันทนาการ


แต่ผมขอย้ำนะครับ ว่า กัญชา กัญชง มีประโยชน์มากกว่านั้น สามารถนำไปใช้รักษาอาการเจ็บป่วยได้ เราเดินหน้า ก็เพื่อให้คนไทย ได้ปลูกไว้รักษาโรค เป็นพืชสมุนไพรครับ


ท่านนายกฯ เอง ก็สนับสนุนให้ใช้ในเรื่องดีๆ กระทรวงฯ เราก็วางเป้าไว้เช่นนั้น


และเราก็มีกระบวนการควบคุม ให้การใช้ให้อยู่ในจุดที่เหมาะสม เรากำลังร่างกฎกรอบนั้นอยู่

ดาวน์โหลด (1).png

เพื่อให้ทุกท่านสามารถติดตามประเด็นวิเคราะห์เจาะลึกผ่านทาง CLOSE-UP THAILAND เชิญเพิ่มเพื่อนทางไลน์ @closeupthailand

bottom of page