top of page

หอการค้าไทยฯ มอบเอกสารข้อเสนอแนวทางเยียวยาและช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

  • รูปภาพนักเขียน: Close Up Thailand
    Close Up Thailand
  • 22 ส.ค.
  • ยาว 1 นาที
ree

วันที่ 21 สิงหาคม 2568 ดร. พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย คุณจีรพันธ์ อัศวะธนกุล รองประธานกรรมการ หอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการค้าชายแดน และคุณธวัชชัย เศรษฐจินดา กรรมการเลขาธิการ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้มอบเอกสารข้อเสนอจากภาคเอกชนให้กับ คุณพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ถึงแนวทางการออกมาตรการเยียวยาและช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทยและกัมพูชา ซึ่งส่งผลกระทบต่อการค้า การขนส่ง ห่วงโซ่อุปทานระหว่างทั้ง 2 ประเทศ รวมถึงการขาดแคลนแรงงานในหลายภาคส่วน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ทั้งต่อผู้ประกอบการไทยตามจังหวัดชายแดน ผู้ประกอบการไทยในประเทศ และผู้ประกอบการต่างประเทศที่ดำเนินธุรกิจในไทย โดยมีผลกระทบกับภาคธุรกิจต่างๆ อาทิ ภาคเกษตรกรรม ที่ขาดแคลนแรงงานในช่วงฤดูการเก็บเกี่ยว ทำให้สูญเสียผลผลิต ต้นทุนแรงงานเพิ่มขึ้น และในภาคธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ ที่โครงการก่อสร้างหลายแห่งต้องหยุดชะงัก เนื่องจากขาดแคลนแรงงาน ทำให้มีต้นทุนที่สูงขึ้น อีกทั้ง ยังกระทบต่อภาคธุรกิจท่องเที่ยว โดยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายัง 7 จังหวัดชายแดนลดลง เนื่องจากความไม่มั่นใจในความปลอดภัย



โดยข้อเสนอแนะของหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยที่นำมามอบให้นี้ ได้มีการรวบรวมมาจากหน่วยงานเครือข่ายของสภาหอการค้าฯ อาทิ หอการค้าจังหวัด หอการค้าต่างประเทศในไทย และสมาคมการค้า เพื่อนำเสนอต่อภาครัฐบาลของไทย พิจารณาให้ความช่วยเหลือและเยียวยาต่อทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบ โดยมีข้อเสนอหลักๆ อาทิ


1) มาตรการทางด้านภาษี และค่าธรรมเนียม โดยเสนอให้สามารถนำค่าใช้จ่ายที่มาใช้บริการใน 7 จังหวัดชายแดนที่ติดกับกัมพูชา มาหักรายจ่าย 2 เท่า และการยกเว้นเบี้ยปรับสำหรับการยื่นภาษีล่าช้าอันเป็นผลมาจากเหตุการณ์ความไม่สงบ


2) มาตรการการเงินเพื่อสภาพคล่องผู้ประกอบการ ให้มีเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ และเสนอให้สถาบันการเงินเอกชน ออกมาตรการให้ความช่วยเหลือที่ใกล้เคียงกับสถาบันการเงินของรัฐ


3) มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยให้รัฐบาลสนับสนุนให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนจัดกิจกรรมในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนมากขึ้น


4) มาตรการด้านแรงงานและการจ้างงาน โดยขอให้ชะลอการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ การปรับลดอัตราเงินสมทบนายจ้างและผู้ประกันตน ผ่อนปรนแรงงานกัมพูชาในการกลับเข้ามาทำงานในประเทศ รวมทั้งการขยายเวลาและการลดค่าใช้จ่ายในการขึ้นทะเบียนแรงงาน อีกทั้ง ยังขอให้มีการจัดหาแรงงานประเทศอื่นๆมาทดแทน สอดคล้องกับที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบอนุมัติบันทึกความร่วมมือในการจัดหาแรงงานศรีลังกามาทดแทนแรงงานที่ขาดแคลน แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในระยะสั้นนี้ สภาหอการค้าฯ เสนอให้นำแรงงานจากประเทศ อื่นๆมาเพิ่มเติม อาทิ จากบังคลาเทศ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เป็นต้น

ทั้งนี้ ภายหลังจากการหารือร่วมกัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้รับข้อเสนอของหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ซึ่งในเบื้องต้นจะดำเนินการเรื่องแรงงานเป็นลำดับแรก อีกทั้ง จะมีการหารือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อออกมาตรการสนับสนุนให้หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน จัดการประชุมและนิทรรศการ รวมถึงกิจกรรมต่างๆขององค์กรในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน อย่างไรก็ตาม มาตรการนี้จะต้องหารือกับหน่วยงานด้านความมั่นคงก่อน นอกจากนี้ ในด้านมาตรการภาษี รัฐบาลจะพิจารณาดำเนินการในลำดับถัดไป 


ความคิดเห็น


ดาวน์โหลด (1).png

เพื่อให้ทุกท่านสามารถติดตามประเด็นวิเคราะห์เจาะลึกผ่านทาง CLOSE-UP THAILAND เชิญเพิ่มเพื่อนทางไลน์ @closeupthailand

bottom of page