เมื่อ"พลังงานสะอาด"ไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี แต่คือเรื่อง “ผู้นำ” และกติกาที่กำหนดอนาคตประเทศ

นั่นคือ ความจำเป็นของ "หลักสูตรผู้นำนโยบายพลังงาน"

พลังงานสะอาดไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี แต่คือเรื่อง “ผู้นำ” และกติกาที่กำหนดอนาคตประเทศ.ท่ามกลางโลกที่เร่งเดินหน้าสู่พลังงานสะอาด ประเทศไทยยังเผชิญคำถามสำคัญว่า เหตุใดการเปลี่ยนผ่านพลังงานจึงยังดำเนินไปอย่างล่าช้า ทั้งที่ปัจจุบันเรายังพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลสูงถึง 85% และมีสัดส่วนไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดเพียง 15% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาค.

“หลักสูตรผู้นำนโยบายด้านการเปลี่ยนผ่านพลังงาน” ชวนมองการเปลี่ยนผ่านในฐานะการเปลี่ยนทั้งระบบ ตั้งแต่เทคโนโลยี นโยบาย กติกา การสื่อสาร ไปจนถึงกลไกการเงิน โดยมีข้อมูลชี้ชัดว่า ต้นทุนแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนลดลงกว่า 84% ในรอบทศวรรษ และภายในปี 2030 ต้นทุนไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์อาจถูกกว่าก๊าซมากกว่า 30% ขณะที่ตลาดระบบกักเก็บพลังงานเติบโตมากกว่า 20% ต่อปี

ในอีกด้าน การผลักดันยานยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีลดคาร์บอนอย่าง CCUS กำลังเปิดโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจ แต่จะเกิดขึ้นได้จริงก็ต่อเมื่อมีกติกาและนโยบายที่เอื้อต่อการลงทุนและการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ไม่ใช่เพียงการเพิ่มกำลังผลิตพลังงานสะอาด แต่คือการสร้างระบบพลังงานที่ยืดหยุ่น มั่นคง และเชื่อมโยงกับชีวิตของผู้คน.การเปลี่ยนผ่านพลังงานที่แท้จริงจึงไม่ได้เริ่มจากเทคโนโลยีใหม่เพียงอย่างเดียว แต่เริ่มจากผู้นำที่เข้าใจทั้งพลังงาน เศรษฐกิจ และสังคม พร้อมออกแบบนโยบายบนหลักฐาน และสื่อสารให้สังคมเห็นภาพอนาคตร่วมกัน.

เนื้อหาจากโครงการหลักสูตรผู้นํานโยบายด้านการเปลี่ยนผ่านพลังงาน ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้า สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน พ.ศ. 2567