top of page

เมื่อผู้ป่วยมะเร็งเปลี่ยน “ทางเลือก” เป็น “ทางรอด” ด้วยวิธีการรักษาแบบบาดแผลเล็ก



"โรคมะเร็ง” โรคร้ายที่ใคร ๆ ก็ไม่อยากพบเจอไม่ว่าจะกับตัวเอง คนรอบข้างหรือคนในครอบครัว จากการเปิดข้อมูลของกรมการแพทย์พบว่า แต่ละปีไทยจะมีผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่กว่า 140,000 คน หรือ ประมาณ 400 คนต่อวัน โดยโรคมะเร็งที่พบมาก 5 อันดับแรกในคนไทย ได้แก่ มะเร็งตับและท่อน้ำดี มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก และมะเร็งปากมดลูก รวมถึงสถานการณ์โรคมะเร็งโลก โรคมะเร็งถือเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของคนทั่วโลก

และแน่นอน เมื่อผู้ป่วยพบว่าตนเองเป็นมะเร็ง ทุกคนต้องเตรียมตัวเข้าสู่กระบวนการรักษาโดยมีแพทย์เป็นผู้วินิจฉัยและเลือกแนวทางการรักษาให้เหมาะสมกับระยะของโรคและองค์ประกอบต่าง ๆ โดยรวมของคนไข้ หากแต่ปัจจุบันในหลาย ๆ ประเทศต่างมีเทคโนโลยีทางการแพทย์เฉพาะทางที่ก้าวล้ำไปไกล ทำให้ผู้ป่วยมะเร็งมีทางเลือกในการรักษาที่มากขึ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นมีชื่อของ โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ด ที่ตั้งอยู่ ณ เชิงเขาป๋ายหยุนที่สวยงาม เมืองกว่างโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน รวมอยู่ด้วย

นายหวัง หวยจง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ด กล่าวว่าปัจจุบันเรามีนวัตกรรมมีเทคโนโลยีขั้นสูงระดับนานาชาติคือการรักษามะเร็งด้วยวิธีบาดแผลเล็กมากถึง 18 เทคโนโลยีในการดูแลผู้ป่วยมะเร็ง ทั้งเทคโนโลยีคีโมเฉพาะจุด เทคโนโลยีความเย็น เทคโนโลยี “มีดนาโน”(Nano knife) และเทคโนโลยีแบบภูมิคุ้มกันร่างกาย หากเปรียบเทียบกับเทคโนโลยีการรักษาแบบดั้งเดิม การทำคีโมแล้ว จะพบว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่จะทำให้ผู้ป่วยมีเพียงบาดแผลขนาดเล็ก ผลข้างเคียงน้อย แต่ผลลัพธ์ดี มีความปลอดภัยและมีความแม่นยำสูงเลยทีเดียว เทคโนโลยีดังกล่าวเป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่มีความแม่นยำเฉพาะจุดหรือทำให้เกิดบาดแผลเล็กในการให้การรักษาแก่ผู้ป่วยมะเร็งที่ต่างจากวิธีการรักษาแบบดั้งเดิม สามารถช่วยให้ผู้ป่วยมะเร็งปลอดภัยและคลายความหวั่นวิตกกังวล

ที่ผ่านมา การรักษามะเร็งด้วยวิธีบาดแผลเล็กของโรงพยาบาล ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากชาวต่างชาติ เนื่องจากผลการรักษาด้วยวิธีบาดแผลเล็กมีประสิทธิภาพดีเยี่ยม จึงทำให้มีผู้ป่วยต่างชาติเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหลายพันรายต่อปี โดยโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กวางโจวได้นำเข้าอุปกรณ์ทางการแพทย์ในการรักษามะเร็งด้วยวิธีบาดแผลเล็กจากสหรัฐอเมริกา เยอรมนีและประเทศอื่นๆ มาใช้ในการรักษามะเร็งด้วยวิธีบาดแผลเล็กมากกว่า 10 วิธี เช่น การรักษาด้วยคีโมเฉพาะจุด การพิมพ์อนุภาค 3 มิติ มีดฮีเลี่ยมอาร์กอนและการหลอมละลายด้วยไมโครเวฟ เป็นต้น

โดยเทคนิคการรักษาที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย คือเทคโนโลยีการรักษาด้วย “มีดนาโน” ซึ่งการรักษาด้วยมีดนาโนเป็นการรักษาผ่านสนามไฟฟ้าที่มีแรงดันสูง บนเยื่อหุ้มเซลล์จะเกิดการก่อตัวของ Electroporations ที่ไม่สามารถย้อนกลับได้ระดับนาโนหลายระดับ การทําลายความสมดุลภายในและภายนอกของเซลล์จะช่วยเพิ่มการทำลายเซลล์ การใช้วิธีการหลอมละลายปล่อยแรงดันสูงระดับไมโครวินาทีจะถูกปล่อยออกมา เพื่อทําลายเยื่อหุ้มเซลล์มะเร็ง ทําให้เซลล์มะเร็งตายและทำให้เซลล์ภูมิคุ้มกันสามารถกลืนชิ้นส่วนเซลล์ก้อนมะเร็ง เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการทำลายก้อนมะเร็ง

ซึ่งบุคคลที่เหมาะสมในการรักษาเทคโนโลยีชนิดนี้ คือ ผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะแรก ระยะกลางและระยะสุดท้าย ผู้ป่วยที่ไม่เหมาะสมหรือไม่เต็มใจที่จะได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัดหรือเคมีบําบัด ผู้ป่วยมะเร็งที่มีอาการกําเริบหลังการผ่าตัดและไม่สามารถทนต่อการผ่าตัดได้อีก ผู้ป่วยมะเร็งที่ผลตอบสนองไม่ดีหลังการผ่าตัดแบบดั้งเดิมคือรังสีรักษาและเคมีบําบัด และเหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ทำการรักษารังสีรักษาและเคมีบําบัดมีอาการดื้อและอาการแพ้”

นอกจากนี้ โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ด ยังชูเทคนิคการรักษามะเร็งแบบบาดแผลเล็กด้วย “มีดคังโป” อีกวิธีหนึ่ง ซึ่งมีดคังโปเป็นเทคนิคการรักษามะเร็งด้วยความเย็นและความร้อน โดยมีดคังโปจะใช้ความเย็นจากไนโตรเจนเหลวปล่อยความเย็นและความร้อนผ่านเข็ม โดยเข็มหนึ่งเข็มสามารถทำอุณหภูมิได้ในระยะ 4.5 - 6 ซม. สามารถปล่อยความเย็นและความร้อนได้ภายใน 20 นาที ซึ่งขนาดเข็มอยู่ที่ 1.7 -3 มม. มีขนาดเล็กและเบา มีโครงสร้างหลายชั้น แยกด้วยระบบสุญญากาศ โดยร้อยละ 80 มีดคังโปจะใช้รักษามะเร็งของอวัยวะที่เป็นก้อน เช่น มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งตับอ่อน มะเร็งต่อมไทรอยด์ มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปฐมภูมิกับมะเร็งแพร่กระจายอื่นๆ สามารถใช้รักษาผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยที่ร่างกายอ่อนแอ หรือผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายที่ไม่สามารถรักษาด้วยวิธีทั่วไป หรือผ่านการรักษาแล้วไม่หาย

โดยวิธีการรักษาด้วยความเย็นกับความร้อน สามารถหยุดการไหลของเลือดและป้องการการลุกลามของเซลล์มะเร็งได้ แล้วยังทำลายเซลล์มะเร็งจากภายใน เพิ่มการไหลซึมผ่านผนังหลอดเลือด ทำให้เกิดความเสียหายภายในหลอดเลือด เร่งให้เซลล์มะเร็งตายไวยิ่งขึ้น โดยแทงเข็มทำความเย็นและความร้อน (ประมาณ 2mm.) ผ่านผิวหนังไปยังบริเวณเซลล์มะเร็ง โดยใช้ไอระเหยของแอลกอฮอล์เพิ่มความร้อนภายในเซลล์มะเร็งด้วยอุณหภูมิสูงถึง 80 องศา ผลจากการปล่อยความร้อนสูงทำให้เซลล์มะเร็งบวมแล้วแตก หลังจากปล่อยความเย็นและความร้อน เนื้อเยื่อเซลล์มะเร็งที่ตายไป สามารถปรับแอนติเจนของเซลล์มะเร็ง กระตุ้นเซลล์ภูมิคุ้มกันได้ ทำให้เซลล์ภูมิคุ้มกันในร่างกายกำจัดเซลล์มะเร็งภายในตัวผู้ป่วย

ทั้งนี้จุดเด่นของการรักษาด้วยมีดคังโป ทำให้เลือดออกน้อย ไม่จำเป็นต้องเย็บแผล หลังผู้ป่วยทำการรักษาสามารถฟื้นตัวได้เร็ว การรักษาวิธีนี้จะทำลายแค่เซลล์มะเร็ง ไม่มีผลกระทบต่อเซลล์ปกติ ไม่มีผลข้างเคียง เนื่องจากมีดคังโปโจมตีแต่เซลล์มะเร็งเท่านั้น ผู้ป่วยที่อยากมีสุขภาพที่แข็งแรง สามารถบรรเทาความเจ็บปวดและยืดอายุให้ยาวนานขึ้นได้” นายหวัง หวยจง กล่าวทิ้งท้าย

ดาวน์โหลด (1).png

เพื่อให้ทุกท่านสามารถติดตามประเด็นวิเคราะห์เจาะลึกผ่านทาง CLOSE-UP THAILAND เชิญเพิ่มเพื่อนทางไลน์ @closeupthailand

bottom of page