top of page

เมื่อยอดวิวชนะความจริง: บทเรียนจากกฎเหล็กอินฟลูฯ จีน สู่คำถามของสังคมไทย

  • รูปภาพนักเขียน: Close Up Thailand
    Close Up Thailand
  • 5 วันที่ผ่านมา
  • ยาว 1 นาที

 

ree

 

ล่าสุดจีนออกกฎเหล็กบังคับให้อินฟลูเอนเซอร์ไลฟ์สด ที่ให้ความรู้ หรือแสดงความเห็นในประเด็นที่ถือว่าเป็น "วิชาชีพเฉพาะทาง" เช่น การแพทย์ / สุขภาพ /กฎหมาย/ การเงิน/ การศึกษา ต้องมีวุฒิการศึกษา หลักฐานรับรอง หรือใบอนุญาตวิชาชีพที่เกี่ยวข้องมายืนยัน! ถ้าไม่มีอาจโดนปรับ แพลตฟอร์มก็ต้องมีการตรวจสอบด้วย

 

ย้อนมอง "บ้านเรา" อินฟลูฯ ไทย มีใบอะไรบ้าง?ในขณะที่จีนบอกว่า "ไม่มีวุฒิ ห้ามพูดเรื่องจริงจังเพื่อสกัดกั้นข่าวปลอม คำแนะนำผิดๆ ที่อาจทำลายสังคมโดย ลองมองย้อนมาที่สังคมไทย ที่เต็มไปด้วย "ผู้เชี่ยวชาญกำมะลอ" บนโลกออนไลน์

 

คำถามคือ "ความน่าเชื่อถือ" ของเนื้อหาที่ไหลบ่าในฟีดเราทุกวันนี้ มันวัดกันที่ "ยอดไลก์" หรือ "ความรู้จริง" กันแน่!!

 

เพราะถ้าพูดเรื่องจริงจังที่ไม่มีใบอนุญาตก็เสี่ยงบิดเบือนข้อมูลและสร้างความเสียหาย และถ้าพูดเรื่องบันเทิงที่ไม่สร้างสรรค์ก็เสี่ยงชี้นำสังคมไปในทิศทางที่ไม่เหมาะสม

 

จีนกำลังทำให้เห็นว่าการสื่อสารบนโลกออนไลน์ไม่ได้เป็นแค่ "เสรีภาพในการพูด" อีกต่อไป แต่มันคือ "ความรับผิดชอบทางวิชาชีพ" ที่ส่งผลกระทบต่อสังคม

 

นโยบายนี้อาจจะดูเข้มงวดและมองได้ว่าเป็นเรื่องการจำกัดเสรีภาพทางความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) แต่ในอีกแง่หนึ่ง มันก็สะท้อนถึง วิกฤตความน่าเชื่อถือ (Credibility Crisis) ในโลกออนไลน์อย่างรุนแรง คำถามที่ทิ้งไว้ให้สังคมไทยคือ เราจะจัดการกับ "อินฟลูฯ" ที่ให้ข้อมูลผิดๆ ได้อย่างไร? โดยที่รัฐไม่ถูกกล่าวหาว่า "ปิดปาก" ประชาชน

 

สังคมไทยต้องการ "ใบอนุญาตอินฟลูเอนเซอร์" ในสาขาเฉพาะทางเหมือนจีนหรือไม่? หรือเราจะใช้กลไกของ "วุฒิภาวะทางปัญญา" ของผู้รับสารอย่างเดียว? เพราะถ้าวันนี้เรายังปล่อยให้ยอดวิวชนะความจริง... อนาคตเราจะเชื่ออะไรได้บ้าง?


(บทความโดย น.ส.วีรินทร์ อรวัฒนพันธุ์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC)

 

 

ความคิดเห็น


ดาวน์โหลด (1).png

เพื่อให้ทุกท่านสามารถติดตามประเด็นวิเคราะห์เจาะลึกผ่านทาง CLOSE-UP THAILAND เชิญเพิ่มเพื่อนทางไลน์ @closeupthailand

bottom of page