top of page

เศรษฐาขอ4เรื่องสำคัญกับรัฐบาลอิสราเอล!!!ผ่านทูต"ออร์นา ซากิฟ" เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย

ต่างประเทศ

นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ภายหลังหารือเอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย เพื่ออัพเดทสถานการณ์ และร้องขอความช่วยเหลือสำหรับคนไทยในอิสราเอล

วันที่ 13 ตุลาคม 2566 เวลา 09.10 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลังการหารือ เอกอัครราชทูตอิสราเอลฯ นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีสรุปสาระสำคัญดังนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้เชิญ นางออร์นา ซากิฟ (H.E. Mrs. Orna Sagiv) เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย มาพบเพื่ออัพเดทสถานการณ์ และร้องขอสำหรับความช่วยเหลือ ใน 4 ประเด็น 1. กรณีคนงานที่เสียชีวิต ขอให้นำส่งประเทศไทยโดยเร็ว ซึ่งเอกอัครราชทูตรับที่จะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แต่ต้องมีขั้นตอนในการชันสูตร ตรวจพิสูจน์ทราบ ซึ่งก็จะมีเรื่องการได้รับเงินช่วยเหลือทดแทน พร้อมย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุด 2. คนงานแสดงเจตจำนงกลับประเทศไทย ซึ่งชณะนี้มีประมาณ 6000 คน โดยสามารถลำเลียงกลับได้วันละ 200 คน ซึ่งความสำคัญคืออยู่ที่เครื่องบิน โดยจะมีการประชุมคณะทำงานเย็นนี้ ที่กระทรวงการต่างประเทศ โดยเอกอัครราชทูตฯ ให้ความมั่นใจถึงความสำคัญของรัฐบาลในการลำเลียงคนไทยกลับประเทศ 3. คนงานที่ถูกบังคับให้ทำงาน ซึ่งเอกอัครราชทูตฯ รับทราบและจะหาข้อเท็จจริงให้ได้โดยเร็ว นายกรัฐมนตรีขอให้ลืมเรื่องผลประโยชน์ไปก่อน โดยให้ความสำคัญถึงความปลอดภัย ซึ่งสถานการณ์มีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ประเทศไทยไม่ได้มีส่วนในข้อพิพาท และมีจำนวนผู้เสียชีวิตมากเป็นลำดับต้น 4. เรื่องตัวประกัน ได้ขอร้องให้เอกอัครราชทูตฯ เร่งพยายามช่วยเหลือเจรจาเอาตัวประกันออกมาให้ได้ เพราะทุกคนถือเป็นผู้บริสุทธิ์ ซึ่งตามสนธิสัญญาระหว่างประเทศจะต้องได้รับการปล่อยตัวโดยเร็วรัฐบาลใช้ทุกเส้นทาง ทุกวิถีทาง ขอให้มั่นใจว่าทำอย่างเต็มที่จากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งทางกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงแรงงาน ในการใช้เครื่องบินเพื่ออพยพคนไทยจะต้องขอเพื่อบินผ่านน่านฟ้าในทุกครั้ง ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศได้พยายามเจรจา และหวังว่านานาชาติจะช่วยอำนวยความสะดวก ซึ่งอย่างไรก็ดี ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ความสำคัญสูงสุด คือคนไทยต้องออกมาให้ได้เร็วที่สุด ด้านเอกสารเป็นเรื่องรอง สำหรับความคืบหน้าของประเทศที่ 3 กระทรวงการต่างประเทศกำลังประชุมและเจรจา ซึ่งอาจจะเป็น UAE ยืนยันจะทำทุกวิถีทาง เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทยแจ้งว่า พร้อมให้เครื่องบินเดินทางออกทุกเมื่อ เพื่อขนย้ายคนไปในที่ปลอดภัย โดย 99% ของชาวต่างชาติได้ถูกอพยพออกจาก Red Zone แล้วแต่ยังเหลือในพื้นที่อื่นๆ ต้องดูต่อไป


ดาวน์โหลด (1).png

เพื่อให้ทุกท่านสามารถติดตามประเด็นวิเคราะห์เจาะลึกผ่านทาง CLOSE-UP THAILAND เชิญเพิ่มเพื่อนทางไลน์ @closeupthailand

bottom of page