top of page

143 ชาติ หนุนมติยูเอ็นประณามรัสเซีย ส่วนไทยและอีก 34 ชาติ งดออกเสียง

ต่างประเทศ


ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ได้ประณามรัสเซียในการผนวกแคว้นต่าง ๆ ของยูเครน เข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน หลังจากรัสเซียใช้สิทธิวีโต้มติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติประณามผนวกดินแดนยูเครนของรัสเซีย


เมื่อวันพุธที่12 ต.ค.2565 ที่นครนิวยอร์ก สหรับอเมริกา ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ 143 ประเทศ จาก 193 ประเทศ หรือ 3 ใน 4 ลงมติเห็นชอบญัตติประณามดังกล่าว ที่ระบุว่า ความพยายามของรัสเซียในการผนวกดินแดน 4 แคว้นของยูเครน เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย

มีเพียง 4 ประเทศ ที่ค้านมติดังกล่าว ได้แก่ ซีเรีย นิการากัว เกาหลีเหนือ และเบลารุส โดย 35 ประเทศงดออกเสียง ในจำนวนนี้รวมถึง จีน พันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ของรัสเซีย อินเดีย ลาว ปากีสถาน เวียดนาม ไทย ศรีลังกา ซูดาน ปากีสถาน มองโกเลีย ทาจิกิสถาน และประเทศแถบแอฟริกาหลายประเทศ

ขณะที่ชาติอาเซียนอื่น ๆ ได้แก่ เมียนมา กัมพูชา สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย บรูไน ติมอ เลสเต เห็นด้วยกับมติ


มติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ได้เรียกร้องให้ทุกประเทศไม่รับรองความเคลื่อนไหวของรัสเซีย นับเป็นการโดดเดี่ยวทางการทูตอีกระดับที่กดดันไปยังรัสเซียนับตั้งแต่มีการรุกรานยูเครน นอกจากนี้ ยังให้การรับรองอธิปไตย อิสรภาพ เอกภาพและบูรณภาพทางเขตแดนของยูเครน ภายใต้เงื่อนไขเขตแดนที่นานาชาติยอมรับ


ช่วงเช้าที่ผ่านมา เฟซบุ๊กของการกระทรวงการต่างประเทศไทย เผยแพร่ถ้อยแถลงของนายสุริยา จินดาวงษ์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ต่อการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยพิเศษ ครั้งที่ 11 ถึงการลงมติงดออกเสียงต่อกรณียูเครนว่า ประเทศไทยเลือกงดออกเสียง เนื่องจากว่า มติดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงบรรยากาศที่มีความอ่อนไหวและกำลังมีสถานการณ์ที่ผันผวนและปะทุขึ้นมาได้

"มตินี้จะยิ่งทำให้ลดโอกาสของการทูตในสภาวะวิกฤตที่จะนำมาซึ่งสันติภาพและการเจรจาในทางปฏิบัติเพื่อแก้ไขความขัดแย้ง โดยอาจผลักให้ทั้งโลกเข้าสู่สภาวะของสงครามนิวเคลียร์และการพังทลายทางเศรษฐกิจ" ถ้อยแถลงดังกล่าวระบุ

ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า ประเทศไทยมีความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับสถานการณ์ที่หลักการระหว่างประเทศที่ถูกทำให้เป็นการเมืองสูงขึ้นได้นำมาสู่ความไม่สร้างสรรค์ในการยุติสงคราม

"การประณามเป็นการยั่วยุให้เกิดความดื้อแพ่ง ไม่ประนีประนอม และลดทอนโอกาสของการร่วมมืออย่างสร้างสรรค์"

ถ้อยแถลงระบุต่อว่า ประเทศไทยโศกเศร้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับยูเครน ทั้งทางกายภาพ สังคม มนุษยธรรมที่ถูกทำลาย รวมทั้งความยากลำบากแสนสาหัสที่ชาวยูเครนประสบ จึงเน้นย้ำความจำเป็นที่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายในโศกนาฏกรรมนี้ ร่วมกันลดความขัดแย้งและความรุนแรง และพยายามหาวิธีการที่สันติท่ามกลางความแตกต่าง

ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า จีนงดออกเสียง เพราะไม่เชื่อว่าการลงมติของที่ประชุมดังกล่าวจะเป็นประโยชน์

"การกระทำใดก็ตามของที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ควรช่วยลดความหนักหนาของสถานการณ์ ควรเป็นการช่วยให้สถานการณ์กลับไปสู่การพูดคุยแบบเดิม และช่วยสนับสนุนทางออกทางการเมืองต่อวิกฤตนี้" อกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรของจีนประจำสหประชาชาติ ระบุ

ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ทวีตข้อความหลังจากมติดังกล่าวว่า "ยินดีที่ 143 รัฐสนับสนุนมติที่ประชุมสมัชชาสประชาชาติครั้งประวัติศาสตร์ ความพยายามผนวกดินแดนยูเครนของรัสเซีย ไม่มีความหมาย"


ดาวน์โหลด (1).png

เพื่อให้ทุกท่านสามารถติดตามประเด็นวิเคราะห์เจาะลึกผ่านทาง CLOSE-UP THAILAND เชิญเพิ่มเพื่อนทางไลน์ @closeupthailand

bottom of page