top of page

#หนุ่มยาคูลท์วันนี้ อารมณ์ดี๊ ดี..!!!


14 มกราคม 2566 วันเด็กประจำปี นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมกิจกรรมบริเวณ

"สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า" ทำเนียบรัฐบาล ในวันเด็กอย่างอารมณ์ดี หลังอารมณ์บูด จากคำถามที่ไม่ชอบ จากนักข่าวสายทำเนียบมาหลายวัน จนกลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องการควบคุมอารมณ์ตนเอง

โดยนายกรัฐมนตรี เปิดงานวันเด็กแห่งชาติ 2566 ทำเนียบรัฐบาล ย้ำเด็กไทย “รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่ความดี” เป็นพลเมืองมีคุณภาพของสังคม ชุมชนและประเทศชาติ กำชับไม่ลืมประวัติศาสตร์ชาติไทย ยืนยันรัฐมุ่งพัฒนาเยาวชนในทุกมิติ เพิ่มขีดความสามารถทัดเทียมนานาชาติ

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงคำขวัญวันเด็ก ประจำปี 2566 ที่ว่า “รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่ความดี” ซึ่งการรู้หน้าที่ คือ หน้าที่ที่มีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ดังบทเพลงรักชาติที่ว่า “ความรักอันใดแม้รักเท่าไหน ก็ไม่ยั่งยืนเท่าความรักชาติ รักแผ่นดินของเรา” เด็กและเยาวชนต้องมีหน้าที่ต่อตนเอง คือ มีความกตัญญูรู้คุณต่อบิดามารดา ผู้มีพระคุณ หน้าที่ในการเป็นศิษย์ที่ดีของครู หมั่นแสวงหาความรู้ พัฒนาตนเองอยู่เสมอ เพื่อเป็นพลเมืองไทยที่มีคุณภาพในการทำหน้าที่ต่อสังคม ชุมชน และประเทศชาติ นอกจากนี้ เยาวชนต้องมีวินัยต่อตนเองและต่อสังคม เพราะการมีวินัยจะช่วยให้ชีวิตประสบความสำเร็จ และช่วยให้ทุกคนในสังคมอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข โดยการเริ่มที่ตัวเอง ถ้าคนในสังคมมีวินัย เคารพกติกา กฎระเบียบ และกฎหมาย บ้านเมืองจะไม่วุ่นวาย ขอให้ทุกคนตระหนักถึงสิทธิและปฏิบัติตามหน้าที่ของพลเมืองที่ดีในสังคม มีเสรีภาพในการปฏิบัติแต่ไม่ทำให้ตัวเองหรือผู้อื่นเดือดร้อน เพื่อความเรียบร้อยและมีเสถียรภาพของบ้านเมือง รวมทั้งมีความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ เทิดทูนและมีความจงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติ


ส่วนการใฝ่ความดี คือการฝึกตนเองให้คิดดี คิดบวก คิดเพื่อประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งการปฏิบัติตนภายใต้คุณธรรมความดีงามจะเป็นเกราะป้องกันภัยให้ทุกคนมีกรอบในการประพฤติปฏิบัติแต่สิ่งที่ดีงาม และเป็นภูมิคุ้มกันที่เข้มแข็งของเยาวชนให้เติบโตเป็นทรัพยากรบุคคลอันมีค่าของแผ่นดินต่อไป และเป็นผู้ใหญ่ที่ดี มีคุณภาพ ทั้งนี้ขอให้เด็ก ๆ เยาวชนทุกคน ตั้งมั่นในความดี มีสติปัญญาที่เข้มแข็ง เป็นผู้โอบอ้อมอารีและเมตตาเอื้อเฟื้อ เพื่อสังคมไทยในวันข้างหน้าจะเป็นสังคมที่น่าอยู่ มีแต่รอยยิ้ม และมีความสุข


นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการสร้างขีดความสามารถให้เยาวชนไทย ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาเยาวชนในทุกมิติ และพัฒนาคนทุกช่วงวัย เพื่อให้มีความพร้อมในทุกด้านทั้งร่างกาย สติปัญญา ความดีงาม และคุณธรรม ตลอดจนมีศักยภาพในด้านต่าง ๆ เพื่อสร้างโอกาสให้เยาวชนไทยมีพลังอำนาจและขีดความสามารถทัดเทียมนานาชาติได้ โดยได้ส่งเสริมในเรื่องความเป็นไทย ใจรักชาติ และพลังอำนาจของเด็กไทย


นายกรัฐมนตรีกล่าวเน้นย้ำเรื่องความเป็นไทย ใจรักชาติ ที่ถือเป็นพลังอำนาจอันทรงคุณค่าที่สุดของเด็กไทย โดยประเทศไทยมีประวัติศาสตร์ยาวนาน มีเอกลักษณ์วัฒนธรรมที่โดดเด่นเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ และเป็นมรดกล้ำค่าที่สืบสานมาจากอดีต หากเด็กและเยาวชนไทยตระหนักถึงคุณค่าของความเป็นไทย จะเป็นพลังยิ่งใหญ่ที่สามารถนำไปสร้างสรรค์ ขับเคลื่อนทั้งภาคเศรษฐกิจและสังคม เกิดเป็นเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ส่งผลให้ประเทศไทยพัฒนาก้าวไกลอย่างมีเอกลักษณ์โดดเด่นในเวทีโลก เพราะประเทศไทยมีสิ่งดี ๆ มากมายที่บรรพบุรุษได้ถ่ายทอดไว้ อีกทั้งยังมี Soft Power ซึ่งเป็นพลังอำนาจไม่มีชาติใดทัดเทียมได้ ทั้งด้านอาหาร ภาพยนตร์ เทศกาลรื่นเริง แฟชั่น และศิลปะการต่อสู้ หรือที่เรียกว่า 5F ได้แก่ Food Film Festival Fashion Fighting ขอให้ทุกคนตระหนักในคุณค่าควบคู่กับการสร้างเสริมพลังอำนาจในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีวิทยาการสมัยใหม่ ตลอดจนใส่ใจสิ่งแวดล้อม

ดาวน์โหลด (1).png

เพื่อให้ทุกท่านสามารถติดตามประเด็นวิเคราะห์เจาะลึกผ่านทาง CLOSE-UP THAILAND เชิญเพิ่มเพื่อนทางไลน์ @closeupthailand

bottom of page