เมื่อจีน คู่ค้าอันดับ 1 ของไทยยาวนานกว่าทศวรรษและไทยยังคงเป็น"คู่ค้าที่ขาดดุล"มาตลอด การเมืองคือ1ในจุดอ่อนของไทย!
- Close Up Thailand
- 5 วันที่ผ่านมา
- ยาว 1 นาที

จีนยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องมายาวนานกว่า 13 ปี ตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน สะท้อนถึงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นและการเติบโตของการค้าในทุกมิติ
ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ระบุว่ามูลค่าการค้ารวมระหว่างไทย–จีนในปี 2568 (มกราคม–กันยายน) อยู่ที่กว่า 3.62 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 1.98 ล้านล้านบาท ในปี 2556 คิดเป็นการขยายตัว 82.8% ตลอดช่วง 13 ปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ไทยยังคงขาดดุลการค้ากับจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จาก 330,624 ล้านบาท ในปี 2556 เป็นประมาณ 1.59 ล้านล้านบาท ในปี 2568 (มกราคม–กันยายน) เพิ่มขึ้นกว่า 382% ซึ่งสะท้อนถึงการพึ่งพาการนำเข้าจากจีนในหลายหมวดสินค้า
ด้านโครงสร้างสินค้า
สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปจีน ได้แก่ ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง เม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์ยาง ยางพารา และเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ
สินค้านำเข้าหลักจากจีนมายังไทย ได้แก่ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเคมีภัณฑ์
ไทยมีแนวโน้มส่งออกสินค้าเกษตร วัตถุดิบ และสินค้ากึ่งสำเร็จรูป ขณะที่จีนส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง สะท้อนถึงความแตกต่างของโครงสร้างการค้าและห่วงโซ่การผลิตระหว่างสองประเทศ
แม้มูลค่าการค้ารวมจะขยายตัวต่อเนื่อง แต่ความไม่สมดุลทางการค้า ระหว่างไทยและจีนยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม เพื่อให้การเติบโตของการค้าระหว่างสองประเทศเกิดประโยชน์ร่วมกันอย่างยั่งยืน
#เมื่อการเมืองคือจุดอ่อนของไทย!!!!!
อย่างไรก็ตาม จุดอ่อนของไทยคือ ความต่อเนื่องการเมือง !!!!
โดยในระยะเพียงไม่ถึง 4 ปีดี
ผู้นำจีนประธานาธิบดี สี จิ้นผิง มีโอกาสสัมผัสมือ กับนายกรัฐมนตรีจากประเทศไทยถึง 4 คน เฉลี่ยปีละ 1 คน เรียกว่า มือยังไม่ทันจะอุ่นเปลี่ยนมาจับมืออีกแล้ว!!!










.png)
ความคิดเห็น